ซีอีโอน้ำปลาร้า ฟ้องอดีตคนใกล้ชิด ปลอมลายเซ็น กู้เงิน 80 ล้าน

อดีตภรรยานักร้องหมอลำชื่อดัง CEO น้ำปลาร้าอิ่มสุข ยื่นฟ้องอดีตคนใกล้ชิดปลอมลายเซ็นค้ำประกันกู้เงินธนาคาร 80 ล้าน เรื่องแดงหลังหย่ากัน



วันนี้ (24 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริษัทอิ่มสุขฟู๊ดฯ เลขที่ 361 บ.ดงยอ ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร น.ส.เฌอลินญ์ อภินาราเกษมสิทธิ์ อายุ 31 ปี หรือ นินิว เจ้าของบริษัทอิ่มสุขฟู๊ดฯ พร้อมนายธีรศักดิ์ ทองทรวง ทนายความ แถลงต่อสื่อมวลชน ภายหลังนินิวถูกหนังสือทวงถามการผิดนัดชำระสินเชื่อกับธนาคารแห่งหนึ่งสาขาสกลนคร ในฐานะคนค้ำประกัน เมื่อต้นเดือนตุลาคม 67 ที่ผ่านมา จึงทำให้ถึงกับงงว่าตัวเองนั้นได้ไปค้ำประกันให้ใครตอนไหนอย่างไร จึงโร่ไปตรวจสอบกับธนาคารเบื้องต้นพบว่า ตัวเองนั้นถูกอดีตชายคนสนิทนำหลักฐานและลายมือชื่อของตนเองไปค้ำประกันวงเงินสินเชื่อกับธนาคารถึง 4 สัญญา เมื่อปี 2566 รวมกันแล้ว 80 ล้านบาท

น.ส.เณอลินญ์ กล่าวว่า จากกรณีตนได้รับใบแจ้งหนี้ผิดนัดชำระในฐานะคนค้ำประกัน จึงอยากยืนยันว่าตนเองนั้นไม่ได้เซ็นต์หรือมอบอำนาจให้ใครไปทำธุรกรรมสินเชื่อกับธนาคารและสามารถยืนยันได้ว่าเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ตอนเกิดสัญญาขึ้นกับทางธนาคาร ตนเองนั้นอยู่ที่ไหนอย่างไรและไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับทางธนาคาร ซึ่งมีหลักฐานและพยานยืนยันความบริสุทธิ์ได้ เรื่องนี้หลังทราบเรื่องตนเองนั้นเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมมีอุปสรรคในเรื่องเอกสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องพึ่งทนายความและศาล วันนี้ตอนเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปศาลจังหวัดสกลนคร เพื่อฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องในสัญญาทั้งทางแพ่งและทางอาญา ที่ทำให้ได้รับผลกระทบเสียโอกาสทางการเงินเกี่ยวกับธุรกิจ

นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดสกลนคร เพื่อฟ้อง 2 คดี ประกอบด้วยคดีแพ่งยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งสัญญาค้ำประกัน 4 ฉบับ ให้เป็นโมฆะ เพราะว่าเจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาไปค้ำประกันด้วยการลงลายมือชื่อเองหรือมอบหมายให้ผู้ใดทำแทน และต้องการเอกสารต้นฉบับของสัญญาทั้งหมดมาตรวจสอบความถูกต้องว่าเป็นลายมือชื่อของผู้ค้ำประกันจริงหรือไม่ และการยื่นฟ้องต่อแพ่งมีการเรียกร้องต่อจำเลยทั้งหมด 6 คน เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท ส่วนคดีอาญาได้ฟ้องจำเลยทั้งหมด 5 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามเอกสารที่ปรากฎ ทั้งผู้กู้กรรมการผู้กู้และจนท.ธนาคารที่รับรองว่าคุณนินิวไปลงลายมือชื่อความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม

นายธีรศักดิ์ ทนายความ กล่าวอีกว่า การออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนครั้งนี้เพราะเจ้าตัวตกเป็นผู้เสียหายและอยากตั้งข้อสังเกตุธนาคาร เหตุใดการทำสินเชื่อวงเงินสูงขนาดนี้ถึงปล่อยป่ะละเลยเรื่องเอกสารได้อย่างไรทั้งที่เจ้าตัวไม่รู้ ซึ่งวันทำธุรกรรมสินเชื่อดังกล่าวทางเราและเจ้าตัวมีพยานและหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าวันทำธุรกรรมดังกล่าวนั้นคุณนินิวไม่ได้อยู่ในสถานที่ทำธุรกรรมหรือไปลงลายมือชื่อใดๆทั้งสิ้น และวันที่ถูกนำชื่อไปทำธุรกรรมคือวันเดียวกันช่วงเซ็นต์ใบหย่าเมื่อเดือนพฤษาคม 2566 จึงเป็นที่หน้าสังเกตุเป็นอย่างมาก ทั้งนี้คุณนินิวตกเป็นผู้ค้ำประกันโดยไม่มีเจตนาท่ากับว่ามีหนี้และภาระเพิ่มในระบบการเงินทำให้เสียโอกาสในการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้อยากให้ธนาคารที่ทำเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงตรงนี้ด้วย

โดย olan_l

24 ต.ค. 2567

661 views

EP อื่นๆ