‘ว.วชิรเมธี’ ชี้แจงแทนคณะสงฆ์ ที่เคยไปสอนใน The Icon ย้ำไม่ควรลากพระไปวุ่นวายในธุรกิจ

‘ว.วชิรเมธี’ ชี้แจงแทนคณะสงฆ์ที่เคยไปสอนใน The Icon เผยไม่มีรูปไหนไปเกี่ยวข้องกับบริษัทเชิงธุรกิจ แค่รับนิมนต์ไปสอนไปฉัน ย้ำอย่าลากพระไปวุ่นวายในธุรกิจ วอนทำความเข้าใจ ด้วยใจที่รักเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระเมธีวชิโรดม หรือ ว.วชิรเมธี ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจง หลังมีการเผยแพร่ภาพพระสงฆ์จำนวนหนึ่งรวมตังตัวเองปรากฏกับคณะผู้บริหาร The Icon Group ธุรกิจเครือข่ายที่กำลังเป็นประเด็น โดยระบุว่า

“ประกาศขออภัย และทำความเข้าใจให้ตรงกับความจริง

๑.หลังจากติดตามสถานการณ์ของบริษัท ดิไอคอน อย่างใกล้ชิด

ก็เข้าใจว่า น่าจะมีความไม่ชอบมาพากลหลายแง่มุมดำรงอยู่จริง

ตามที่ผู้บริหารได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ล่าสุดใน The Standard

(๑๔ ต.ค.๖๗)

๒.แต่ภาพใหญ่ก่อนหน้านั้น ที่บริษัท ทำธุรกิจอย่างเปิดเผย

โดยมีซูเปอร์สตาร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมเป็น

พรีเซนเตอร์หรือผู้บริหารด้วย จึงทำให้คนที่เห็นภาพและข่าว

เชื่อได้ว่า น่าจะมีความโปร่งใสในทุกขั้นตอน พระทุกรูปที่ได้รับ

นิมนต์ไปเทศน์ก็คงคิดเช่นนั้น

๓.ทุกเดือนทางบริษัทจะนิมนต์พระไปสอนธรรมะ และทำบุญ

ถวายสังฆทานเป็นประจำ ผู้เขียนเอง ก็เป็นเพียงหนึ่งในพระสงฆ์

ที่ได้รับนิมนต์ให้ไปเทศน์ไปสอน ต่างแต่ว่า ในการมานิมนต์

ผู้เขียนนั้นทีมผู้บริหารมานิมนต์ถึงวัดที่จังหวัดเชียงราย และ

มาร่วมถวายทุนการศึกษาด้วย (จึงมีภาพเยอะหน่อย)

๔.ในการสอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมานั้น ผู้เขียนสอนเรื่อง “หัวใจเศรษฐี”

หรือกุญแจสู่ความสำเร็จตามหลัก “ทิฏฐธรรมิกัตถประโยชน์”

ซึ่งมีหลักฐานอ้างอิงอยู่ในพระไตรปิฎกชัดเจน (๑.ขยันหา-๒.รักษาดี-

๓.มีกัลยาณมิตร-๔.ใช้ชีวิตสมดุล) โดยสอนผ่าน ๓ วลีสำคัญคือ

“อดทนให้ได้ ใจเย็นให้พอ และรอให้เป็น” ใช้เวลาบรรยายถึง ๑ ชั่วโมง

๑๒ นาที (ไม่ใช่อย่างที่ตัดมาบางส่วน)

ระหว่างที่บรรยายให้รู้จักสร้างเนื้อสร้างตัวตามแนวพุทธ

ด้วยความอดทน ใจเย็น ไม่ใจเร็วด่วนได้ ผู้เขียนจึง ”แซว“ หรือ

”ประชดแดกดัน“ คนที่มาฟังทั้งห้องประชุมว่า ถ้า ”อดทนไม่ได้ ใจเย็นไม่พอ

และรอไม่เป็น“ จะเอาให้รวยทันใจเลย…เช่นนั้นแล้ว ก็แซวว่า

“ลูกเอ๋ย ทำอย่างนั้นก็ดิไอคอนแล้ว…”  ซึ่งทุกคนที่นั่งฟังก็หัวเราะ

เข้าใจ, คำพูดที่ (ใครก็ไม่รู้) ตัดมาเป็นคลิปนั้น

โดยบริบทเป็นเพียงคำพูดหยิกแกมหยอกธรรมดาตามประสานักพูดทั่วไป

ที่อยากให้มีอารมณ์ขันเท่านั้น เป็นการแซะ การแซว ไม่ได้มีนัยจริงจัง ซีเรียส

ถึงขั้นที่จะเอามาปั่นว่าพระมีส่วนร่วมทางธุรกิจใดๆ ทั้งสิ้น คนฟังทุกคนในห้อง

ฟังแล้วก็เข้าใจ ขำๆ ฮาๆ จบแล้ว ถวายสังฆทาน กลับบ้าน มีแค่นั้น (ที่สำคัญ

Case study ที่ยกมาเล่าก็เป็นเรื่องราวก่อนโควิด ไม่เกี่ยวอะไรกับดิไอคอน)

๕.ผู้เขียนเรียนธรรมะมาจนสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย

คือเปรียญธรรม ๙ ประโยค,ดังนั้น ในการเทศน์การสอน จึงเน้นแต่ข้ออรรถ

ข้อธรรมที่มีแก่นสาร แม้จะเทศน์ด้วยภาษา ตัวอย่างร่วมสมัย แต่ก็สามารถโยง

กลับไปหาพระไตรปิฎกได้เสมอ ไม่ได้สอนแบบมั่วๆ อย่างที่ตัดมาให้คนด่า

หรือให้คนเข้าใจผิด เรื่องนี้ ปัญญาชนที่ติดตามผู้เขียนมาตลอด

ย่อมรู้จักกันดีอยู่แล้ว

๖.แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อบางส่วนของการเทศน์การสอน ก่อให้เกิดความ

เข้าใจผิดออกไปในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะคลิปที่ตัดมาไม่ครบ

ถ้วนกระบวนความ ถึงกระนั้น ผู้เขียนก็ยินดีขออภัยจากใจจริงมา ณ ที่นี้ด้วย

ที่อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น ต่อไปก็จะสำรวม

ระวังไม่ให้มีความพลาดพลั้งเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ขอบพระคุณทุกคนที่เตือนมา

ด้วยความรักและห่วงใย

๗.ขอย้ำตรงนี้ว่า พระทุกรูปที่เคยไปเทศน์ไปสอนที่บริษัท ทุกรูป

ไปด้วยใจสุจริตในฐานะพระที่ได้รับนิมนต์ไปสอนไปฉันเท่านั้น ไม่มีรูปไหน

เข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทเชิงธุรกิจใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องเช่นนี้เพียงใช้

Common Sense ก็น่าจะเข้าใจได้ ไม่ควรพยายามลากไปให้เห็นเป็นว่า

มีพระเข้าไปวุ่นวายอยู่ในธุรกิจ  ผู้เขียนจึงขอทำความเข้าใจให้ตรงกัน

ด้วยใจที่เป็นธรรม รักความจริง  และหวังความสุขความเจริญต่อกัน

ว.วชิรเมธี,

(ในนามตัวแทนของพระสงฆ์

ที่เคยไปสอนที่บริษัทดิไอคอน)

๑๔ ต.ค.๖๗


โดย nicharee_m

15 ต.ค. 2567

249 views

EP อื่นๆ