ทิ้งลูก 1 ขวบนั่งเฝ้า 4 ศพ ผัวง้อไม่สำเร็จ ยิงเมีย-แม่ยาย-หลานชาย ก่อนยิงตัวเองดับคาบ้าน

เสี่ยรับเหมาเมืองหนองคาย วัย 55 ปี ตามมาง้อขอคืนดีภรรยาที่บ้านแม่ยายที่จังหวัดขอนแก่น หลังทะเลาะกันรุนแรงจนภรรยาต้องหอบลูกน้อยวัยขวบเศษหนีมาบ้านแม่ แต่ง้อไม่สำเร็จใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงแม่ยาย ภรรยา และหลานชาย เสียชีวิต ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันลั่นไกปลิดชีพตาม รวม 4 ศพ ทิ้งลูกสาววัยขวบเศษนั่งเฝ้าศพ ขณะที่พ่อตารอดตายหลังออกไปซื้อกับข้าวในหมู่บ้าน



21 กันยายน 2567 ร.ต.อ.พงษ์พิชิต ธนาพันธุ์ภักดี รอง สว.สอบสวน สภ.มัญจาคีรี ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 10 บ.ขามป้อม ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จึงรายงานให้ พ.ต.อ. พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.มัญจาคีรี รับทราบ พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลพระยืน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่า มีชาวบ้านที่เรื่องต่างพากันเกิดทางมามุงดูเหตุการณ์กันเป็นจำนวนมาก



ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว อยู่ท้ายหมู่บ้าน มี 2 ห้องนอน จากการตรวจที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ พบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ศพ นอนจมกองเลือดอยู่ภายในห้องนอน ทราบชื่อต่อมาคือ นางจรวยพร แฝงฤทธิ์ อายุ 49 ปี นอนหงายอยู่บนที่นอน มีรอยถูกยิง เข้าที่บริเวณชายโครงด้านขวาประมาณ 2 นัด ถัดจากปลายเท้าไป เป็นศพของนายนภดล อันทะศรี อายุ 55 ปี นอนหงายในลักษณะห่มผ้า มีรอยกระสุนถูกยิงเข้าช่องปากทะลุกลางศีรษะ จำนวน 1 นัด ถัดจากเท้าของนายนภดล เป็นศพของนางสาวคลิตา แฝงฤทธิ์ อายุ 30 ปี มีรอยกระสุนถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่บนที่นอน และเมื่อตรวจสอบภายในห้องน้ำที่อยู่ภายในตัวบ้าน พบศพของนายพรพิพัฒน์ ปากเมย อายุ 18 ปี นอนฟุบเสียชีวิตอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องน้ำ มีร่องรอยถูกยิงที่บริเวณศีรษะ



ภายในห้องที่เกิดเหตุพบ น้องเอ (นามสมมุติ) วัย 1 ขวบ 7 เดือน นั่งเฝ้าศพอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มตัวออกจากบ้านมา พบว่า ไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์นี้โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพ มีเกี่ยวความข้องกันคือ นางจรวยพร เป็นแม่ยายของนายนภดล ผู้ก่อเหตุและแม่ของนางสาวคณิตา นางสาวคลิตา เป็นภรรยาของนายนภดลและลูกสาวของนางจรวยพร และเป็นน้าสาวของนายพรพิพัฒน์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมพยายามหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำนายเวียงชัย คำตุ้ม อายุ 58 ปี สามีของนางจรวย และพ่อตาของนายนภดล ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้อย่างหวุดหวิด ขณะเดียวกันในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจัดการเก็บร่างของผู้เสียชีวิต พบว่า มีเพื่อนสนิทของนายพรพิพัฒน์ หรือ น้องเบส ต่างพากันยืนเกาะรั้วร้องไห้ด้วยความเสียใจที่เพื่อนมาเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้



นายเวียงชัย คำตุ้ม สามีของนางจรวยพร ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาวได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับกับนายนภดล ซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่ จ.หนองคาย ได้ประมาณ 4-5 ปี โดยไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นได้มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือน้องเอ อายุ 1 ขวบ 7 เดือน ก่อนที่ระยะหลังทั้งคู่จะมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรงจนถึงขั้นตีทำร้ายลูกสาวบ่อยครั้ง และเมื่อทะเลาะกันลูกสาวก็จะพาน้องเอ กลับมาหาพ่อกับแม่ที่บ้านที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น แต่ไม่นานนายนภดล ก็จะตามมาง้อ และลูกก็จะกลับไปที่หนองคาย ซึ่งจะเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง



จนกระทั่งครั้งล่าสุดที่ลูกสาวบอกว่า ถูกนายนภดลตบตีทำร้าย จึงได้พาน้องเอ กลับมาที่บ้านที่ขอนแก่น โดยมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ และบอกกับพ่อแม่ว่า จะไม่ยอมกลับไปกับนายนภดลอีก จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายนภดลได้เดินทางมาหาลูกสาวที่บ้าน โดยซื้อนมมาฝากให้น้องเอ ลูก จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้นายนภดลได้เดินทางมาที่บ้านอีกครั้ง โดยขับรถยนต์เก๋งยี่โตโยต้า แคมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 157 หนองคาย มาจอดหน้าบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนเองได้ออกไปซื้อของในหมู่บ้าน จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากบ้านหลายนัด ก่อนที่จะเข้าไปดู แต่ตนเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไป จนกระทั่งตำรวจได้เข้าตรวจสอบ พบว่า ทั้ง 4 คน เสียชีวิตภายในบ้าน ซึ่งหากตนเองอยู่ในบ้านช่วงเวลานั้น ก็คงจะถูกยิงตายแน่นอน



ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับป้านาง (นามสมมุติ) ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับบ้านหลังที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดในครั้งนี้ขึ้น ตนเองอาสัยอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย หรือเสียงคนทะเลาะกันแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลาเกือบ 08.00 น. ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งจะอุ้มหนูน้อยวัยขวบเศษออกมาจากบ้าน โดยหนู้น้อยได้ร้องไห้ ชาวบ้านจึงช่วยกันพามาปลอบขวัญและกล่อมให้นอนหลับเพราะสงสาร ซึ่งขระนั้นก็ยังไม่มีใครทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จนกระทั้งเจ้าหน้าที่มาบอกว่า มีเหตุยิงกันตาย 4 ศพ



ในเวลาถัดมา ทางญาติของนายนภดล ได้เดินทางมาจากจังหวัดหนองคาย หลังจากทราบเรื่อง โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตรวจ เพื่อขอรับศพนายนภดล กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.หนองคาย ขณะที่ศพของผู้เสียชีวิต อีก 3 ศพ ทางญาติจะมีการตั้งศพเพื่อประกอบพิธีที่วัดภายในหมู่บ้านต่อไป

โดย nut_p

21 ก.ย. 2567

660 views

EP อื่นๆ