19 มิ.ย. 2567
โมโหเดือด! ลูกชาย 'ร้านอาหารซีฟู้ด' ย่านเทียนทะเล คว้าปืนยิงลูกจ้างคาร้าน ดับ 1 สาหัส 1
paweena_c
คุณต้องการล้างการแจ้งเตือนทั้งหมด?
รมว.กต.โชว์วิสัยทัศน์การทูตมืออาชีพ ฟื้นเกียรติภูมิ-บทบาทไทยบนเวทีโลก ส่งเสริมการค้า-ลงทุน ดันความร่วมมือเพื่อนบ้านแก้ปัญหา ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน หวังเห็นเมียนมายุติสู้รบ เกิดสันติสุข
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงนโยบายการต่างประเทศ ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ทำหน้าที่แทนนายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยได้ประกาศนโยบาย “Ignite Thailand และ Re-Ignite Thai Foreign Policy: ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ด้วยการทูตมืออาชีพ” มุ่งมั่นผลักดันการทูตไทยใน 3 มิติ ทั้งการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นของต่างชาติ หลังปัญหาการเมืองภายในที่ทำให้ประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส เวลา และศักยภาพในการขับเคลื่อนการต่างประเทศ และยังทำให้ความสนใจของประชาคมโลกต่อประเทศไทยหายไป ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเน้นบทบาทประเทศไทยให้เข้มข้นขึ้น และเป็นผู้เล่นสำคัญบนประชาคมโลก เพื่อสร้างบทบาท และเกียรติภูมิให้กลับมายังประเทศไทย เพื่อผลประโยชน์ของชาติ ทั้งการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ผ่านกลไกการทูต และทีมไทยแลนด์
นอกจากนั้น ยังจะมุ่งเน้นผลักดันความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนในการทำธุรกิจร่วมกันให้เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีลงไปถึงระดับรากหญ้าของประเทศ ดึงดูดการลงทุนเข้ามาไทยประเทศ โดยประเทศไทย พร้อมสนับสนุนกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศในพื้นที่แม่โขง และความร่วมมืออื่น ๆ เช่น RCEP, BRICS และ OECD เพื่อรับมือกับความท้าทายรูปแบบใหม่ ๆ หลายรูปแบบและรอบด้าน และไทยพร้อมที่จะยกระดับเกียรติภูมิของประเทศ ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHRC อีกด้วย
รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในความสัมพันธ์ระหว่างไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน ส่งเสริมการค้าการลงทุน ผลักดันการท่องเที่ยวระหว่างกัน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ข้ามแดน พร้อมยังหวังจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยกับเพื่อนบ้าน มีความแน่นแฟ้น เพราะเป็นพื้นฐานปัจจัยที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่วนสถานการณ์ทางการเมือง และการสู้รบภายในเมียนมานั้น นายมาริษ ยอมรับว่า ได้ส่งผลต่อความมั่นคงตามแนวชายแดไทย จึงหวังเห็นการยุติการสู้รบ และเกิดสันติสุขขึ้นในเมียนมา เพราะจะช่วยลดผลกระทบด้านความมั่นคงของไทย และประเทศไทยให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับเมียนมาในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และแก๊งส์คอลเซ็นเตอร์ ธุรกิจสีเทาต่าง ๆ ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องพัฒนาความร่วมมือกับเมียนมาต่อไป และจะใช้บทบาทประเทศไทย ช่วยสร้างการเจรจาเพื่อสันติสุขให้เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสมบูรณ์แบบ และยังพร้อมให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกับเมียนมาโดยจะต้องเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ
โดย nut_p
15 มิ.ย. 2567
55 views
19 มิ.ย. 2567
paweena_c
19 มิ.ย. 2567
19 มิ.ย. 2567
thichaphat_d
18 มิ.ย. 2567
chawalwit_m
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567
18 มิ.ย. 2567