'เพื่อไทย' ฟาด 'ก้าวไกล' ทวงทุกอย่างแต่ค้านทุกสิ่ง ทำคนไทยเสียโอกาส ชี้อภิปราย 152 ขอให้เน้นเนื้องาน

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกพรรค พร้อมด้วยนางสาวชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152


โดยนายดนุพรระบุว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยได้เน้นย้ำ สส.ให้เข้าร่วมการประชุมสภา ที่จะมีการอภิปรายตามมาตรา 152 ซึ่งเป็นการอภิปรายเพื่อซักถามทั่วไป จึงขอให้ สส.ไปร่วมเป็นองค์ประชุม พร้อมวิงวอนฝ่ายค้านให้อภิปรายในกรอบระเบียบของสภา หลายคนก็รอฟังว่าจะมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตนเชื่อในความเป็นกลางของประธานสภา ไม่ว่าจะเป็นใครขึ้นมาทำหน้าที่บนบัลลังก์ว่าจะใช้ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด


นายดนุพร กล่าวอีกว่า รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ทำงานมาเพียง 7 เดือน และบริหารโดยไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจะเห็นว่า 7 เดือนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำงานหนักมาก โดยไม่มีงบประมาณ และเป็นการลงพื้นที่อย่างหนัก ยืนยัน เป็นห่วงปัญหาของประชาชนไม่แพ้ฝ่ายค้าน


แต่พรรคที่ใหญ่ที่สุดของฝ่ายค้าน ไม่เคยบริหารราชการแผ่นดินแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นต้องเข้าใจบริบท เวลาที่จะนำนโยบายที่หาเสียงและนำไปสู่การปฏิบัตินั้น อย่างแรกเราต้องใช้งบประมาณ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ต้องใช้งบอย่างเดียว ขณะที่บางเรื่องต้องใช้เวลาในการแก้ไขกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ พ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร หรือแม้แต่เรื่องสมรสเท่าเทียม ดังนั้นพรรคที่ไม่เคยบริหารราชการแผ่นดินเลย ย่อมไม่เข้าใจ คิดว่าเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง บางนโยบายต้องมีกฎหมายรองรับ เช่น เงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ค้อบทำให้รอบคอบเพราะไม่เคยมีนโยบายนี้ในประเทศไทยมาก่อน หากย้อนไปในอดีตก็มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคซึ่งเป็นนโยบายใหม่ในขณะนั้น สมัยเป็นพรรคไทยรักไทย เราก็ต้องไปเตรียมกฎระเบียบมารองรับ รวมถึงกฎกระทรวง เพื่อให้สิ่งเหล่านี้ถูกต้องตามกฎหมาย


เมื่อท่านติงเรื่องค่าแรง ค่าไฟ เมื่อนายกฯ เศรษฐาเข้ามาเราก็ลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าแรงที่หลายคนบอกว่าเพิ่มบางจังหวัดก็เป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ตนพูดมาปัญหาจริงๆอยู่ที่โครงสร้าง ดังนั้นรัฐบาลได้ลดค่าครองชีพให้ประชาชน เราทราบดีว่าเป็นการชั่วคราว และตนเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกำลังปรับโครงสร้างพลังงาน เพื่อช่วยประชาชน แต่การจะเปลี่ยนโครงสร้างก็มีผลกระทบมากมาย ต้องประชุมทุกฝ่ายทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ


นายดุพรกล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านต้องทำความเข้าใจใหม่ รัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว ราคายางพาราสูงสุดในรอบเจ็ดปี ราคาข้าวสูงสุดในรอบ 16 ปี นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศ 14 ประเทศ คาดว่าจะนำรายได้เข้าประเทศ ประมาณ 500,000 ล้านบาท รถ ไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่สำเร็จแล้ว 12 จังหวัด เจ็ดเดือนรัฐบาลเศรษฐามีผลงานเป็นที่ประจักษ์โดยไม่ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี


จึงอยากไปยังฝ่ายค้านว่า ท่านทวงทุกอย่างแต่ค้านทุกนโยบายของรัฐบาล รอสักนิด เรารับทำงานให้ประชาชน เราเข้าใจความเดือดร้อน เหมือนฝ่ายค้านทุกท่าน นี่เป็นเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยไม่ทำตามคำแนะนำฝ่ายค้านว่า รอ 10 เดือน ถ้ารอทุกอย่างที่เกิดตอนนี้จะไม่เกิด อีก 3 เดือนจะครบ 10 เดือน พรรคเพื่อไทยเตรียมแถลงผลงาน ว่าทำไมเราจึงเห็นว่าไม่ควรรอ 10 เดือน เราจะทำงานอย่างหนักต่อไป นโยบายของรัฐบาล รวมถึ'นโยบายที่หาเสียงไว้ เรามีเวลา 4 ปีที่จะทำให้นโยบายเหล่านั้นเป็นจริง จะช้าจะเร็วก็มีบริบทแตกต่างกันไป


นายดนุพรยังย้ำว่า การอภิปรายในวันที่ 3 และ 4 เมษายนนี้ เป็นการอภิปรายตามมาตรา 152 เมื่ออภิปรายจบ นายกคนที่ 30 ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม เป็นนายกชื่อเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทยมีนายกเบอร์ 30 เราไม่มีนายกครึ่งเบอร์เหมือนบางท่าน ดังนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง มีเวลาอีก 3 ปีกว่า ในการทำนโยบายให้เป็นจริงได้


ด้านนายจิรวัฒน์ เปิดเผยว่าหลังจากจบการอภิปรายทั่วไป พรรคเพื่อไทยจะจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ในวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 เพื่อสื่อสารในประเด็น “อดีต ปัจจุบัน อนาคต” ของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ณ ขณะนั้น เป็นพรรคการเมืองที่เป็น “ผู้นำในการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ” เช่น การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบหลักประกันสุขภาพ , การสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่าน TCDC , การสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบกายรายย่อย ผ่าน SME Bank เป็นต้น จนมาถึงปัจจุบัน ที่พรรคเพื่อไทย ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่จะบอกเล่าถึงการปรับตัวของพรรคเพื่อไทย มีการรับองค์ความรู้ใหม่ๆ จากภายนอกเข้ามาหลากหลายสาขา


เพื่อพัฒนาทั้งองค์กร บุคลากร และ สส.ของพรรค เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของพี่น้องประชาชนทุกคนมากขึ้น มั่นใจว่าภายในปีนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน และในอนาคต รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะสื่อสารในประเด็นของโอกาสของประเทศไทยในเวทีโลก ทำให้ประเทศไทยกลับมาอยู่ในแผนที่โลกอย่างภาคภูมิใจอีกครั้ง

โดย panisa_p

2 เม.ย. 2567

665 views

EP อื่นๆ