ชาวบ้านนับร้อย ร้องถูกเจ้าหน้าที่สหกรณ์ยักยอกเงินกว่า 20 ล้าน วอนตรวจสอบ

วันที่ 17 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับชาวบ้านอำเภอเปือยน้อยนับร้อยคน หลังชาวบ้านร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความที่ สภ.เปือยน้อย เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา พร้อมนำหลักฐานเป็นสมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากพิเศษออมทรัพย์ และเอกสารจากทางสหกรณ์ สเตทเมนต์เงินในบัญชี ซึ่งระบุไม่ตรงกับในสมุดคู่ฝากบัญชีทุกเล่มของชาวบ้านที่เป็นสมาชิก


นางสาวพวงผกา อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย เผยว่า ตนมอบอำนาจให้แม่ไปถอนเงินจำนวน 420,000 บาท แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถเบิกเงินได้ เพราะเกิดปัญหาระบบล่ม ขอเวลา 3 วัน จะดำเนินการเบิกจ่ายให้ จึงคิดว่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่ไม่ควรจะเกิดปัญหาติดขัดแบบนี้ น่าจะมีเงินหมุนเวียนอยู่แล้ว กระทั่งเดือนนี้ให้แม่ไปถอนเงินและปิดบัญชี เพราะไม่เชื่อใจ ซึ่งไปขอ 3 ครั้งก็บอกเพียงว่าไม่มีเงินให้ บอกเพียงว่าขอเวลาหาเงินก่อน พร้อมขอเบอร์ติดต่อกลับ บอกว่าจะเรียกให้มาติดต่อรับเงินอีกครั้ง


ก่อนที่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางสหกรณ์ติดประกาศไว้หน้าสหกรณ์ว่า ระบบล่ม 8-15 พ.ค. 66 ซึ่งชาวบ้านมีการพูดคุยกันมาตลอด ไม่มีใครสามารถถอนเงินได้ จึงรวมกลุ่มกันในวันที่ 15 ที่ผ่านมา ไปที่สหกรณ์ แต่ก็ยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรมาก เพราะมีตัวแทนชาวบ้านเข้าไปคุยในห้องผู้จัดการเพียงสองคน ทางชาวบ้านจึงบอกให้ออกมาชี้แจงกับชาวบ้านข้างนอก ซึ่งทางเจ้าหน้ที่บอกว่า มีคนทุจริตยักยอกเงินไปกว่าสิบล้าน จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้ ขอเวลาในการตรวจสอบ 1 เดือน และจะชดใช้เงินทั้งต้นทั้งดอกคืนให้กับสมาชิกทุกคนที่ถูกยักยอกเงินออกไปจากบัญชี ทางศูนย์ดำรงธรรมได้ประสานไปยังสหกรณ์จังหวัดที่สามารถตรวจสอบได้ ส่วนเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะมีการลงพื้นที่มาในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


ในส่วนของสมุดบัญชีที่ชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกทุกคนมีอยู่นั้น ข้อมูลไม่ถูกต้อง เป็นการปลอมข้อมูลขึ้นมาโดยเจ้าหน้าที่การเงิน ในสมุดบัญชีลงข้อมูลเบิกจ่ายตามจริงที่เราทำธุรกรรม แต่ในสเตทเมนต์ของสหกรณ์ มีการเบิกจ่ายนอกเหนือจากที่ทำธุรกรรมทางการเงิน จนเงินในบัญชีจากหลักแสนเหลือเพียงหมื่นกว่าบาท หากสามารถนำเงินมาคืนทั้งต้นทั้งดอกได้ตามที่บอกกับชาวบ้าน ชาวบ้านก็ไม่ติดใจ ส่วนอื่นๆ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียว


ด้านนายประมวล อายุ 59 ปี ผู้เสียหายอีกคน เผยว่า ตนทำงานที่ กทม. และนำเงินฝากกับสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ซึ่งฝากเข้าบัญชีจนได้เงินเก็บกว่า 2,400,000 บาท ซึ่งตนยังไม่รู้ว่ามีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ได้กลับมาจาก กทม.เพื่อมาขอถอนเงินจำนวน 1,300,000 บาท ในวันที่ 12 พ.ค. 66 เพราะจะนำไปซื้อที่ทำนา แต่เมื่อมาขอถอนเงิน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถถอนได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ยักยอกไปจนหมด ซึ่งทางสหกรณ์ขอดำเนินการตรวจสอบไม่เกิน 2 เดือน และจะดำเนินการจ่ายเงินคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยคืนให้ครบทั้งหมด


ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ตนเองฝากเงินไว้อยู่ 2 ล้าน 4 แสนบาท ถูกยักยอกเงินไป 1 ล้าน 3 แสนบาท ซึ่งตนก็ถามว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วจะถอนเงินที่เหลืออีกล้านกว่าบาทคืนได้ไหม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกขอตรวจสอบก่อน ส่วนเรื่องที่ทางสหกรณ์บอกว่ามีเจ้าหน้าที่เอาเงินไป ตนเองก็ไม่ได้สอบถามมาก ทราบเพียงว่า สหกรณ์ให้เหตุผลที่ถอนเงินไม่ได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินไปและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย โดยพบว่าทางสหกรณ์ได้ทำการปิดให้บริการเนื่องในวันหยุดวันพืชมงคล ซึ่งจากการตรวจสอบพบประกาศข้อควงามระบุระว่า "สหกรณ์ฯงดให้บริการการรับฝากเงิน การถอนเงิน ชั่วคราว เพื่อปรับปรุงโปรแกรมการใช้งานคอมพิวเตอร์ เนื่องจากพบความผิดปกติของระบบการให้บริการและโปรแกรมการใช้งาน สหกรณ์จึงของดบริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 8-15 พ.ค.66"


ในส่วนของการตรวจสอบนั้น ภายหลังจากทางชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับทางสหกรณ์จังหวัด เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นัดชาวบ้านพูดคุยให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ของทางสหกรณ์จังหวัดที่จะลงพื้นที่มาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

โดย panisa_p

17 พ.ค. 2566

710 views

EP อื่นๆ