2 พี่น้อง ร้องสื่อ! ประสบอุบัติเหตุมา 3 ปี ประกันเมินคำสั่งศาล ไม่ชดใช้ค่าเสียหาย

วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำราญ อายุ 44 ปี อาชีพรับจ้าง ได้ร้องเรียนมายังสื่อมวลชนว่า ตนได้ประสบอุบัติเหตุบริเวณ คลอง 14 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2563 วันที่เกิดเหตุนายสำราญ ขับขี่จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ระหว่างเดินทางจาก ถนนธัญบุรี เข้าถนนคลองซอยคลอง 14 มุ่งหน้าไปยัง ถนนลำลูกกาทันใดนั้นรถบัส 2 ชั้น


โดยมีนายสัยชล เป็นผู้ขับ ได้ขับมาจากถนนลำลูกกาได้เลี้ยวขวาตัดหน้ารถจักรยายนต์ของนายนายสำราญ อย่างกระทันหัน จึงชนเข้าบริเวณฝั่งขวาของรถบัสจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ กระดูกส่วนล่างหักหลายส่วนบริเวณขาด้านขวา กระดูกกรามล่างขวาหัก และมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองส่วนล่าง


จากนั้นได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ของทางรถบัสคู่กรณีมาตลอด 3 ปี ทางประกันภัยบริษัทดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ทั้งที่มีคำพิพากษาแล้วให้มีการชดใช้เป็น เงินจำวน 1,044,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 88,596.99 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 1,132,596.99 บาท


ในวันที่ 18 มกราคม 2566 บริษัทประกันภัยคู่กรณี ได้เพิกเฉยและอ้างว่าช่วงนี้ขอฟื้นฟูกิจการก่อน แล้วจะนำเงินมาชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนทางด้านนายสัยชล ผู้ขับบัส และ น.ส.รัชนี เจ้าของรถบัส ก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ตนจึงมาร้องเรียนมายังสื่อมวลชนให้ช่วยเร่งติดตามบริษัทประกันภัยดังกล่าว ให้มาชดใช้ค่าเสียหายและการได้รับบาดเจ็บของตนครั้งนี้เสียที เนื่องจากตอนนี้ตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากนั้นได้นำเอกสารและภาพถ่ายมอบให้สื่อมวลชน เพื่อเสนอข่าวให้ช่วยติดตามบริษัทประกันภัยดังกล่าวให้มาชดใช้ค่าเสียหาย

จากการสอบถาม นางบังอร (พี่สาว) กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุกับน้องชายของตนในครั้งนั้น จากที่เคยทำงานและช่วยกันดูแลพ่อวัย 82 ปี ซึ่งเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตนหมือนกลายเป็นเสาหลักดูแลพ่อที่แก่ชราและครอบครัวน้องชายมาตลอด 3 ปี ทางบริษัทประกันภัยของรถบัสคู่กรณีก็ไม่สนใจแต่อย่างใด ศาลนัดเจรจาแล้วไม่มาตามนัด ศาลสั่งให้ชดใช้ก็อ้างฟื้นฟูกิจการและสิ่งที่เกิดกับอุบัติเหตุครั้งนี้จะให้ทำอย่างไร ทั้งที่น้องชายของตนไม่สามารถทำงานและประกอบอาชีพได้ตามปกติเพราะช่วงขาขวาจนถึงเอวด้านขวานั้นใส่เหล็กดามทั้งหมดและกรามล่างด้านขวาบนใบหน้ายังใส่เหล็กดามการพูดนั้นก็รำบาก ตนอยากฝากไปยังบริษัทประกันภัยฝั่งคู่กรณีให้ช่วยชดใช้ค่าเสียหายเสียทีตอนนี้ตนและครอบครัวรำบากมาก ต้องกู้หนี้ยืมสินมาเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าเดินทางและอีกทั้งค่าทนาย ตนก็ไม่รู้ว่าเดือนกรกฎาคมนี้แพทย์ได้นัดผ่าตัดเอาเหล็กออกก็ยงไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร น้องชายจะกลับมาเดินได้ตามปกติไหม

ด้าน นายสำราญ กล่าวว่า ให้บริษัทประกันภัยของรถบัสคู่กรณีมาดูแลกันบ้าง ตอนนี้ตนและครอบครัวลำบากอย่างหนักทั้งกู้หนี้ยืมสิ้นมาเป็นค่าทนายและการรักษา จากที่เคยเป็นเสาหลักของครอบครัวก็เหมือนเอาภาระนั้นไปยกให้ทางพี่สาวเพียงคนเดียว

โดย chiwatthanai_t

16 พ.ค. 2566

176 views

EP อื่นๆ