สาวเสียเงินแสน เจอหมอศัลยกรรมเถื่อน ทำคางบวม-จมูกพัง ซ้ำหลอกโอนเงินเพิ่ม

สาวทำศัลยกรรม 1 แสนบาท ปรากฏหลังทำพบคางบวม-แผลที่จมูกปิดไม่สนิท คาดเจ้าของคลินิกลงมือทำเองทั้งที่ไม่ใช่แพทย์ แต่เอาแพทย์เวชกรรมมายืนหลอกในห้องผ่าตัด ตรวจสอบพบเป็นคลินิกเถื่อน เคยถูก สคบ. สั่งปิดไปแล้ว


เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 5.2 โพสต์เรื่องราวเตือนภัยถึงการศัลยกรรม โดยมีผู้เสียหายรายหนึ่งร้องเรียนมาว่าได้ไปทำศัลยกรรมกับคลินิกแห่งหนึ่งแต่หลังทำกลับมีปัญหา ซ้ำยังถูกหลอกให้โอนเงินซ้ำ


ทีมข่าวพูดคุยกับผู้เสียหาย อายุ 36 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ตนสนใจจะทำศัลยกรรม จึงได้เสิร์ชหาคลินิกในเฟซบุ๊ก ก็ไปเจอกับเพจคลินิกดังกล่าว ซึ่งพอเข้าไปดูรีวิวก็ดูน่าเชื่อถือ จึงพูดคุยตกลงกับคลินิก ทำศัลยกรรมจมูกและคาง ในราคา 1 แสนบาท และนัดไปทำวันที่ 13 ตุลาคม 2565


โดยในวันที่ไปทำ ตนก็มีความเอะใจ เนื่องจากเจ้าของคลินิกที่ไม่ใช่แพทย์ มาอยู่ในห้องผ่าตัดด้วยโดยยืนอยู่ในตำแหน่งด้านบนศีรษะตน ส่วนแพทย์ที่เป็นผู้หญิงยืนอยู่ด้านข้างเตียง จากนั้นก็มีการคลุมหน้า แต่ตนบล็อกยาชาไม่ได้วางยาสลบเลยพอรู้สึกตัว ซึ่งตลอดเวลาการผ่าตัด แพทย์กับพยาบาลไม่มีเสียงคุยกันเลย จนช่วงท้ายที่แพทย์ถามตนว่าเจ็บไหม ตนรู้สึกว่า เสียงแพทย์อยู่ไกลจากตัวมาก และพอลุกขึ้นมาก็เห็นว่า แพทย์ไม่ได้ใส่ถุงมืออยู่ แต่คนที่ใส่ถุงมือคือเจ้าของคลินิก


จากนั้น หลังผ่าตัดศัลยกรรม ปรากฏว่าที่คางตนบวมมาก ตนพยายามสอบถามคลินิกก็บอกว่า บวมเป็นปกติ แต่ตนรู้สึกไม่ปกติ พอวันที่ 24 ตุลาคม ที่ตนเข้าไปตัดไหมก็เลยขอเข้าพบเจ้าของคลินิก เขาก็บอกว่า เป็นเพราะไหมที่ยึดซิลิโคนกับคางไว้หลุด ทำให้บวม ตนเลยขอให้กรีดเอาซิลิโคนที่คางออกเลยจะได้ลดการอักเสบ ซึ่งในวันนั้นก็มาพบว่า แผลที่จมูกเย็บปิดไม่สนิทด้วย


ซึ่งเจ้าของคลินิกก็บอกว่า แผลที่จมูกจะแก้รอบ 2 ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เจ้าของคลินิกบอกว่า ไม่อยากมีปัญหากับหุ้นส่วน ขอให้ตนช่วยจ่ายเงินค่าแก้รอบ 2 จำนวน 45,000 บาท เพื่อตบตาหุ้นส่วน แล้วในวันที่มาแก้ เขาจะจ่ายคืนเป็นเงินสดให้ทั้งหมด ตนจึงตกลงยอมจ่ายไป


หลังจากนั้น ตนก็กลับมาทำงานที่ต่างประเทศ และนัดกับเจ้าของคลินิกว่าจะกลับไทยไปแก้จมูกวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งระหว่างนั้นตนได้ตรวจสอบข้อมูลของแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้ตนครั้งแรกกับทางแพทยสภา ก็พบว่าเป็นแพทย์เวชกรรม แต่ไม่ใช่แพทย์ที่มีความรู้เฉพาะทางด้านการศัลยกรรมตกแต่งพลาสติก ซึ่งพอสอบถามกับเจ้าของคลินิกไป ก็ยอมรับ และบอกว่า ที่จะแก้จมูกครั้งที่ 2 จะให้แพทย์ศัลยกรรมจริงๆ เป็นผู้ผ่าตัดให้


จากนั้นพอตนกลับไทยมาวันที่ 16 ธ.ค. ปรากฏว่าเจ้าของคลินิกก็พยายามขอเลื่อนนัดตนหลายๆ ครั้ง จนตนรู้สึกเอะใจ วันที่ 17 ธ.ค. จึงตัดสินใจไปแจ้งความไว้ว่าถ้าผิดนัดอีกและไม่จ่ายเงิน 45,000 บาทคืน ตนจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งวันที่ไปแจ้งความ ตนเพิ่งได้รู้จากตำรวจว่า คลินิกนี้ถูกปิดไปแล้วตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนตุลาคม โดย สคบ. ได้เข้าตรวจค้นและสั่งปิดเนื่องจากฉีดโบทอกซ์เถื่อน ไม่ได้ใช้แพทย์ในการฉีด ทั้งนี้ หลังเจ้าของคลินิกทราบว่าตนแจ้งความ ก็ได้โอนเงินคืนมาแล้ว 20,000 แต่จนถึงวันนี้ก็หายไป ติดต่อไม่ได้อีก


ผู้เสียหายบอกอีกว่า ตนได้ไปหาข้อมูล พบว่า เจ้าของคลินิกไม่ได้เปิดคลินิกแค่ที่นี่ที่เดียว แต่ยังมีที่อื่นที่ใช้คนละชื่อกันหลายสาขา ซึ่งเป็นการเปิดคลินิกโดยที่เจ้าของไม่ใช่แพทย์โดยตรงแล้วเอาคนอื่นมาเป็นหุ่น ตนจึงรู้สึกไม่โอเค เพราะการศัลยกรรมมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายก็สูง ไม่ควรมาหลอกกันแบบนี้ และเจ้าของคลินิกเองก็เคยถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังประกันตัวแล้วมาทำต่ออีก


ซึ่งถ้าหลังจากนี้ยังไม่รับผิดชอบตนตามที่ตกลงกันไว้ ตนก็จะไปแจ้งความฐานฉ้อโกง พร้อมฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า หากคิดจะทำศัลยกรรม ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีว่าแพทย์เป็นผู้เชี่ยวชาญโดยตรงหรือไม่ อย่าเชื่อแค่รีวิวที่เห็น

โดย panisa_p

13 ม.ค. 2566

112 views

EP อื่นๆ