‘ชาวศูนย์สิริกิติ์’ กระทบกันให้พรึ่บ ช่วงปิดถนน-MRT ประชุมเอเปค 2022 เลี่ยงความลำบากไม่ได้

ชาวศูนย์สิริกิติ์ กระทบกันให้พรึ่บ ช่วงปิดถนน-MRT ประชุมเอเปค 2022 คนทำงานบริเวณนั้นต้องอ้อม ใช้เวลา-ใช้เงินมากขึ้น บางคนเพิ่งรู้ข่าวจึงยังไม่ได้วางแผนเตรียมการเดินทางใหม่ ด้านพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ ขาดรายได้ไป 1 สัปดาห์เต็มๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้

การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 เป็นการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งปีนี้มีความพิเศษที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ โดยจัดการประชุมหลักที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และจัดเลี้ยงรับรองที่หอประชุมกองทัพเรือ

ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดการประชุม และกิจกรรมต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสม เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ ในช่วงระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน จะมีการปิดการจราจรถนนโดยรอบศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยแบ่งเป็น

1. ถนนที่งดใช้ตลอด 24 ชั่วโมง คือ ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกอโศกมนตรีถึงแยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ตลอดสาย

2. ถนนที่จะงดใช้ในบางช่วงเวลา (ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น.ของวันถัดไป) คือ ถนนเพลินจิต (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่แยกใต้ด่วนเพลินจิต-แยกราชประสงค์, ถนนราชดำริ (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่แยกราชประสงค์-ราชดำริ, ถนนวิทยุ (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่แยกเพลินจิต-แยกสารสิน, ซอยร่วมฤดีตลอดสาย และซอยต้นสน (ตลอดสาย)

3. ถนนที่เปิดให้เดินรถเส้นทางเดียว (ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น.ของวันถัดไป) คือ ถนนราชดำริ (ขาออก) ตั้งแต่แยกราชดำริ-แยกราชประสงค์, ถนนเพลินจิต (ฝั่งขวา) ตั้งแต่แยกใต้ด่วนเพลินจิต-แยกราชประสงค์ และถนนวิทยุ (ขาออก) แยกสารสิน-แยกเพลินจิต

ส่วนการให้บริการสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) จะงดจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร เฉพาะสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในช่วงระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2565

อย่างไรก็ตาม จากการปิดการจราจรและงดรับผู้โดยสาร MRT สถานีศูนย์สิริกิติ์นั้น อาจส่งผลกระทบกับผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่บริเวณนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนทำงาน แม่ค้าพ่อค้า หรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

พนักงานหนุ่มบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง บริเวณ MRT สถานีศูนย์สิริกิติ์ เปิดเผยถึงการเดินทางมาทำงานว่า เขาพักอยู่แถว MRT สีลม ปกติเดินทางมาทำงานด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินลงที่สถานีศูนย์สิริกิติ์ ส่วนเรื่องที่สถานีนี้งดให้บริการในวันที่ 16-19 พ.ย.นั้น เพิ่งรู้ตอนให้สัมภาษณ์เลย เพราะว่าก่อนหน้านี้น่าจะอ่านข่าวผิดพลาด ทำให้คิดว่าเปิดอยู่ พอออกจากสถานีแล้วเดินตามทางเดินก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าปิดสถานีคิดว่าคงเดือดร้อน จะนั่งแท็กซี่มาก็ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเขาอาจจะลงสถานีใกล้สุด คือสถานีคลองเตย แล้วเดินมาจากตรงนั้น ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลกว่าเดิม

ชายคนดังกล่าว กล่าวอีกว่า จริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนการเดินทางเลย เพราะเข้าใจผิด ส่วนผลกระทบครั้งนี้ ก็คงกระทบการตื่นนอนที่ต้องตื่นเช้ากว่าเดิม ใช้เวลามากกว่าเดิม ทั้งตอนมาและตอนกลับ เรื่องเส้นทางก็ยังไม่แน่ใจว่าไปทางไหนได้บ้าง ที่รู้เหมือนจะมีทางลัดด้านหลังอยู่

พนักงานหญิงบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า เธอไม่ได้เดินทางแถวนี้ประจำ แต่ใช้รถไฟฟ้ามาที่ศูนย์สิริกิติ์บ่อย เพราะว่าทำงานที่ต้องเดินทางตลอด เธอพักอาศัยอยู่ที่ไทรม้า จ.นนทบุรี เดินทางจาก MRT สายสีม่วง ต่อสายสีน้ำเงิน บางทีก็ต่อ BTS ซึ่งใน 1 เดือนต้องเดินทางหลายเส้นทาง ส่วนสัปดาห์ที่ปิด MRT ศูนย์สิริกิติ์และปิดถนน จริงๆ ก็ยังไม่ได้ดูข่าวว่าจะปิดตรงไหนไปถึงตรงไหนบ้าง ถ้ากระทบกับเส้นทางที่ต้องเดินทางไปทำงานก็จะลำบาก เพราะว่าจำกัดเวลา ต้องไปให้ทันเวลา ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะมาเดินทางยังไงได้อีก ปิดถนนก็ใช้บนถนนไม่ได้อีก ก็ไม่รู้ว่าจะมายังไงอีก น่าจะเลี่ยงไปทางอื่นเลย

“ทุกวันนี้เดินทางก็ต้องเสียเงินค่าเดินทางเยอะอยู่แล้ว ถ้าต้องเพิ่มการเดินทางที่เยอะขึ้นค่าใช้จ่ายก็ตามมาอยู่แล้วปกติ กระทบเราเรื่องเดินทางแต่ก็ต้องปรับตัวนั่นแหละ มันก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ต้องเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดอยู่แล้ว” พนักงานหญิงบริษัทเอกชนกล่าว

พนักงานหญิงคนดังกล่าว กล่าวอีกว่า ในแง่เจ้าภาพที่ดี ก็ต้องอำนวยความสะดวกแล้วก็แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเรา ให้เขาทำตามขนบธรรมเนียมเรา

พนักงานหญิงวัยกลางคน บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า กระทบนิดหน่อย อาจจะต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางไปทำงาน ปกติเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงได้ 2 สถานี คือ ท่าพระกับศูนย์สิริกิติ์ เมื่อสถานีศูนย์สิริกิติ์ปิด จึงต้องเปลี่ยนไปลงที่สถานีท่าพระแทน ซึ่งเป็นการเดินทางที่ลำบากกว่า ต้องนั่งรถหลายต่อมากขึ้น ทำให้กระทบเรื่องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และใช้เวลามากขึ้น

ด้านพนักงานหญิงวัยกลางคน บริษัทเอกชนอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เธอเดินทาง MRT ศูนย์สิริกิติ์ มาทำงานทุกวันที่คลองเตย เมื่อปิดสถานีทำให้เธอได้รับผลกระทบโดยตรงกับการเดินทาง เพราะบริษัทเอกชนไม่ได้หยุด ต้องมาทำงานทุกวัน แล้วใช้ขนส่งสาธารณะมันจะสะดวก ให้เลี่ยงเส้นทางก็ลำบาก เพราะว่าต้องอ้อมไกล การวางแผนการเดินทางก็ต้องอ้อม อาจจะใช้การขนส่งทางอื่น รถประจำทางที่อาจจะต้องอ้อมนิดนึง ไม่ก็เป็นรถส่วนตัวถ้ามาได้

ส่วนในมุมของพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณนั้น ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน โดยแม่ค้าร้านหมูปิ้ง บริเวณ MRT ศูนย์สิริกิติ์ กล่าวว่า ได้รับผลกระทบแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาขอความร่วมมือให้หยุด เราก็ต้องให้ความร่วมมือ หยุดขายทั้งสัปดาห์ที่ประชุมเอเปค ช่วงที่หยุดจะไปขายตรงอื่นก็ไม่มีที่ไป เราขายตรงนี้ประจำ ขายที่อื่นมีคนขายอยู่แล้ว เดี๋ยวจะไปได้แย่งกัน ทะเลาะกันแทน

“ตอนแรกเขาจะให้หยุดตั้งแต่วันที่ 1-20 พ.ย.เลยด้วยซ้ำ แต่เราบอกไปว่าไม่ได้หรอก จะกินอะไรล่ะ ช่วงโควิดก็ลำบากอยู่แล้ว แม่ค้าเองก็หนีไปบ้านนอก เพิ่งจะมากลับได้ 2 สัปดาห์เอง ป้าก็เลยบอกขอขายเถอะ เขาก็เลยบอกหนีกันเองนะ เขาไม่รับผิดชอบนะ” แม่ค้ารานหมูปิ้งกล่าว

แม่ค้าร้านหมูปิ้ง ยังกล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรเราก็อยากเป็นเจ้าภาพที่ดี นานๆ เขาจะมีงานบ้างสักที เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่ให้ความร่วมมือ อย่างน้อยได้ร่วมมือกับเขาก็โอเค

พ่อค้าร้านผลไม้ กล่าวว่า เป็นคนหาเช้ากินค่ำก็ลำบากหน่อย ไม่มีรายเดือนเหมือนเขา ต้องหยุดขายไป 1 สัปดาห์เต็มๆ ตั้งวันที่ 14-20 พ.ย. จะไปทำอาชีพเสริม ช่วงนี้ก็หายาก เพราะเศรษฐกิจแบบนี้หางานยากอยู่แล้วด้วย หยุดขายก็คือหยุดเลย กระทบมากพอสมควร ขาดรายได้ไปหลายตังค์ ตัวเขาเองไม่ได้มีความจำเป็นอะไรในการใช้เงินเท่าไร ส่วนใหญ่มีแต่ค่าเล่าเรียนลูก ช่วงนี้เปิดเทอมแล้วต้องจ่ายค่าเทอมลูก ส่วนในด้านของการเป็นเจ้าภาพที่ดี ก็คิดว่าการหยุดขายของให้เกิดความปลอดภัย เราต้องคุ้มครองชีวิตเขาด้วย เพราะมีแขกมาประเทศเราเป็นจำนวนมาก

ด้านวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ขนส่งสาธารณะที่อำนวยความสะดวกอย่างมากให้กับคนไทย มีทั้งคนที่กระทบแล้วปรับแผน กับกระทบแต่ทำอะไรไม่ได้ โดยวินมอเตอร์ไซค์คนหนึ่ง ที่ประจำอยู่ที่ MRT ศูนย์สิริกิติ์ ประตู 4 กล่าวว่า เขาได้รับกระทบที่ขาดรายได้ไป แต่ก็สามารถไปขอขับวินที่คลองเตยแทนได้ เพราะถ้าลูกค้าไปขึ้นตรงนั้นมากขึ้นก็เท่ากับว่าวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไม่เพียงพอต่อความต้องการ

วินมอเตอร์ไซค์รายหนึ่ง ประจำซอยไผ่สิงห์โต กล่าวว่า เขาได้รับผลกระทบมาก ผู้โดยสารหายไปเป็นจำนวนมาก เพราะไม่มีคนมาขึ้นตรงจุดนี้ จากการที่ MRT ศูนย์สิริกิติ์งดให้บริการ ซึ่งเขาไม่สามารถย้ายไปขับวินที่อื่นได้ เพราะเป็นวินที่ขึ้นทางเขตแล้ว ต้องอยู่ประจำที่จุดนี้ ที่อื่นก็มีวินของเขาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเป็นเจ้าภาพเอเปคที่ดีก็มีความพร้อม ตำรวจได้มาขอรายชื่อวิน ให้ช่วยดูแลสอดส่องว่ามีใครแปลกๆ มาบริเวณนี้หรือเปล่า

วินมอเตอร์ไซค์ ประจำ MRT ศูนย์สิริกิติ์ ประตู 2 เปิดเผยว่า หัวหน้าวินพูดอยู่ว่าอาจจะหยุดไปก่อน 5 วัน ปกติก็แย่อยู่แล้ว ลำบากหลายอย่าง หาเงินยากกว่าเดิม แต่ก่อนได้รายได้ 600-700 บาทในช่วงเช้า เดี๋ยวนี้ 300 บาท ซึ่งถ้ายิ่งหยุดวิ่งไปก็ยิ่งแย่กว่าเดิม ช่วงหยุดก็ไม่คิดไปวินที่ไหน ตัวตายอยู่ที่นี่แหละ ส่วนการเป็นเจ้าภาพที่ดี ก็ทำด้วยการต้อนรับเต็มที่ ลูกค้ามาก็วิ่งทำงานเต็มที่ มีขอการความร่วมมือให้รองรับแขกที่มาเยี่ยมอยู่เช่นกัน

โดย chutikan_o