บันเทิง

อาลัย 'ครูมืด' เสียชีวิตในวัย 72 บรมครูโขนไทย ที่ไม่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ประคองตัวถ่ายละครขณะป่วย

โดย thichaphat_d

6 พ.ย. 2565

1.9K views

สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา กรมศิลปากร ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ครูมืด – ประสาท ทองอร่าม ปรมาจารย์แห่งการนาฏยสังคีตไทย

ขณะที่ "กัญจนปกรณ์ แสดงหาญ" ที่โพสต์ข้อความอาลัยว่า "#จะเจอแบบนี้กันสักกี่คน คนที่รักเรา สอนเรา เตือนเรา ด้วยความหวังดีมาโดยตลอด บอกตรงๆผมใจหายมากกกก เมื่อทราบว่าป๋ามืดได้เดินทางกลับไปสู่สวรรค์ เป็นคนธรรพ์เหมือนเดิมแล้ว ฝากเพียงตำนานอีกหน้าหนึ่งของศิลปินกรมศิลปากร ที่เต้นกิน รำกิน ร้องกิน เลี้ยงชีวิตมาบนโลกใบนี้ได้ อย่างไม่อายใคร ผมขอให้ดวงจิตดวงวิญญาณของป๋ามืด จงไปสู่ภพภูมิที่ดี ชาตินี้แม้ท่านไม่ได้เป็น #ศิลปินแห่งชาติ แต่ท่านจะเป็น #ศิลปินแห่งรัตนโกสินทร์ ในใจผมตลอดไป"

ทางครอบครัว เปิดเผยว่า ครูมืดเสียชีวิตเมื่อเวลา 17.21 น. ของวันที่ 5 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ในวัย 72 ปี ด้วยโรคมะเร็งปอด หลังเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2565 แล้วอาการเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตเมื่อวานนี้ โดยครอบครัวได้จัดพิธีทางศาสนาที่ วัดบางรักใหญ่ จ.นนทบุรี

ครูมืด ถือเป็นปรมาจารย์ด้านวัฒนธรรม ศิลปินด้านศิลปะวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีประสบการณ์เป็นครูโขนครูการแสดง มากว่า 50 ปี ซึ่งมีผลงานฝากไว้แก่วงการบันเทิงและศิลปะไทยอันทรงคุณค่าไว้มากมาย นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติด้านดนตรี และ ศิลปิน ประจำปี 2563 สาขา บุคคลต้นแบบผู้ทรงคุณวุฒิ ทางด้านดนตรีและศิลปะการแสดง โดย หออัครศิลปิน Hall Of Jazz ด้วย

ซึ่งครูมืด เคยมีผลงานการแสดงทั้งภาพยนตร์ และ ละคร กว่า  39 เรื่อง อาทิ พล นิกร กิมหงวน (ปี 2510) , ลูกโขน (ปี 2553) , อำแดงเหมือนกับนายริด (ปี 2555) และละครทางช่อง 3 อย่าง นาคี (ปี 2559) , แสงเทียน (ปี 2560) ภูตแม่น้ำโขง (ปี 2565) รวมถึงละครลายกินรี ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3

ด้านสถาพร นาควิไลโรจน์ นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง ได้เขียนข้อความถึง ครูมืด ผ่านเฟซบุ๊กว่า

“ภาพครูมืดภาพนี้ (เสื้อขาว) ผมถ่ายด้วยมือถือเมื่อเช้าวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ในคิวถ่ายละครตะนาวศรี และมันจะเป็นภาพสุดท้าย เพราะหลังจากคิวนี้ ครูก็เข้าโรงพยาบาล และครูได้จากไปแล้วเมื่อเวลา 17.21 น. ของวันนี้ (05-11-2565)

ก่อนหน้าจะรับเล่นตะนาวศรี ครูเคยล้มหมอนนอนเสื่อจนถึงขั้นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อดีขึ้นครูก็จะโทรมาถามไถ่อยู่เสมอว่า

“พี่ถา เมื่อไหร่ละครจะเปิด ตอนนี้ครูหายดีแล้ว พร้อมลุยกับพี่ถาแล้ว”

ผมยังถามกลับว่า เรื่องนี้มันต้องบุกป่าฝ่าดง ครูไหวแน่นะ ครูบอกครูไหว สบายมาก ครูหายเป็นปกติแล้ว (ครูบอกอยากทำงานเพราะครูมีภาระ)

เมื่อเราเริ่มต้นทำงานกัน สิ่งที่ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอก็คือ ครูไม่เหมือนเดิม (จากที่เคยร่วมงานกัน) ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพร่างกายหรือความจำ แต่ครูพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะไม่เป็นภาระหรือเป็นตัวถ่วงของคนอื่นๆ

ผมไม่รู้หรอกว่า หลายคิวถ่ายทำที่ผ่านมา ครูจะต้องใช้ความพยายามและความอดทนมากแค่ไหน ในการประคองตัวเองให้ทำงานต่อไปได้ บางครั้งครูก็หน้าซีดและขอพัก ทุกคนช่วยกันดูแล จนครูดีขึ้น ครูก็จะขอกลับมาทำงานต่อ

เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จนผมมารู้ข่าวว่าครูเข้าโรงพยาบาล ได้ยินว่าครูอยากออกมาทำงาน แต่เพราะครั้งนี้อาการของครูหนักมาก ผมติดตามข่าวเรื่อยมา ภาวนาครูจะได้ออกมาอีกครั้ง แต่ผมไม่ได้คาดหวังให้ครูต้องกลับมาถ่ายละครให้ผม แม้ว่าจะมีฉากที่ค้างอยู่หลายฉาก แต่ต้องการให้ครูได้อยู่เป็นปูชนียบุคคลต่อไปให้นานที่สุด

และเพราะความรักและนับถือกันเสมือนญาติ ผมจึงถือว่าครั้งนี้เป็นการสูญเสียคนในครอบครัวไป และขอแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปขอครูมา ณ ที่นี้”


https://youtu.be/0-PZZhYdPKE


คุณอาจสนใจ

Related News