บันเทิง

“บุ๋ม ปนัดดา” ชนะคดีหมิ่นประมาท คนโพสต์กล่าวหาองค์กร หากินกับศพ

โดย nicharee_m

24 ธ.ค. 2567

161 views

จากกรณี “บุ๋ม ปนัดดา” ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี ถูกชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กล่าวหาว่าตนเองและมูลนิธิว่าหากินกับศพ จนเกิดความเสียหาย ประกาศเดินหน้าฟ้องเต็มระบบ

ล่าสุด (23 ธ.ค.) บุ๋ม ปนัดดา ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม อัปเดตผลพิจารณาคดี ว่า จากเหตุการณ์ที่คนกลุ่มหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความและตอบโต้สนทนากันไปมาและกล่าวหาว่าบุ๋มรวมทั้งมูลนิธิ หากินกับศพ เอาเงินเข้ามูลนิธิโดยที่ไม่ได้แบ่งไว้ถึงพ่อแม่เด็กแต่อย่างใด

ทางทีมงานและตัวบุ๋มเองได้เข้าไปอธิบายและส่งหลักฐานให้เห็นแล้ว แต่ก็ยังไม่จบ ยังโพสต์และยืนยันที่จะแสดงความเห็นในลักษณะนี้ต่อไป บุ๋มเลยดำเนินการฟ้องเป็นครั้งแรกในชีวิต เกี่ยวกับหมิ่นประมาท ที่ผ่านมาไม่เคยฟ้องร้องใคร ยกฟ้องและให้อภัยเสมอ แม้แต่ศาลท่านเองก็ยังแปลกใจว่าทำไมครั้งนี้ถึงฟ้องได้ ทั้งๆ ที่ผ่านมาเคยโดนด่าแรงกว่านี้แต่ไม่เคยฟ้อง

แต่ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของบุคคลส่วนตัวบุ๋มให้อภัยได้ แต่ครั้งนี้เกี่ยวกับการทำงานของมูลนิธิซึ่งบุ๋มต้องปกป้อง มันคือศักดิ์ศรีของทุกคนที่มาทำงานด้วยใจ และเคสนี้เราตามคดีมาตั้งแต่น้องโดนทำร้ายยังไม่เสียชีวิต ทีมงานนั่งเฝ้าหน้าห้องไอซียูกับพ่อแม่เด็ก จนน้องเสียชีวิต พ่อแม่เด็กอายุไม่เกิน 20 ปี บอกว่าไม่รู้ต้องจัดการยังไงขอให้พวกเราช่วยด้วย เราก็ช่วยค่าจัดงานทุกอย่าง ส่วนใครจะร่วมบุญก็แล้วแต่เหมือนทุกเคสที่ทำกันตลอดมา

บุ๋มและมูลนิธิองค์กรทำดีขอขอบคุณทนายเปิ้ลที่ช่วยดูแลและจัดการคดีนี้จนถึงที่สุด @splalaw ส่วนคำตัดสินเป็นตามที่ทนายเปิ้ลได้โพสต์หลังจากนี้เลยค่ะ

วันนี้ศาลได้ตัดสินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาที่คุณบุ๋ม ปนัดดาฟ้องคุณสมศักดิ์และคุณแววตา โดยมีข้อความในลักษณะสงสัยการรับบริจาคว่าเป็นมิจฉาชีพและหากินกับศพ เอาเงินบริจาคเข้าองค์กรโดยไม่ถึงพ่อแม่เด็กที่เสียชีวิตที่นครนายก

ศาลตัดสิน นางแววตา จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท รับสารภาพลดกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท ไม่เคยรับโทษจำคุก รอลงอาญา2 ปี ปรับ 10,000 บาท

นายสมศักดิ์ จำคุก 2 ปี ปรับ 60,000 บาท รับสารภาพลดกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 1 ปี ปรับ 30,000 บาท ไม่เคยรับโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 30,000 บาท และนายสมศักดิ์ได้โพสต์ขอโทษคุณปนัดดาในโซเซียล

คดีอุทธาหรณ์ให้คนที่เล่นโซเซียลต้องระมัดระวังการโพสต์ และการแสดงความเห็นที่ต้องไม่พาดพิงบุคคลอื่นให้เสียหาย คดีนี้ทั้งคู่ได้สำนึกผิดและขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่กล้าทำผิดแบบนี้อีกต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News