'ณวัฒน์-อิงฟ้า' ห่วง 'ชาล็อต' ถูกมิจฯหลอกเงิน 4 ล้าน บังคับวิดีโอคอล 24 ชม.

ชาล็อต ออสติน ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ถูกหลอกเงิน 4 ล้าน บังคับวิดีโอคอล 24 ชม. เพจ Miss Grand Thailand โพสต์แจง ณวัฒน์-อิงฟ้า ห่วง  


จากกรณี ชาล็อต ออสติน ถูกมิจฉาชีพใช้กลอุบายหลอกเงิน 4 ล้าน และบังคับให้วิดีโอคอล 24 ชม. เพื่อควบคุมการสื่อสาร ทางต้นสังกัด มิสแกรนด์ เพจ Miss Grand Thailand โพสต์เแจ้งข่าวอัปเดตสถานการณ์ของชาล็อต ระบุว่า


“เรียนแฟน ๆ ทุกท่าน, จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า ชาล็อต ออสติน ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยมิจฉาชีพได้ใช้กลอุบายในการหลอกลวงเงินจำนวน 4 ล้านบาท พร้อมทั้งควบคุมการสื่อสารของน้องอย่างเข้มงวด ด้วยการบังคับให้วิดีโอคอลตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม เวลา 17.00 น. จนถึงขณะนี้ ทำให้การติดต่อกับชาล็อตเป็นไปด้วยความยากลำบาก


ปัจจุบัน ชาล็อตปลอดภัยแล้ว และได้ดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นที่เรียบร้อย ทางบริษัทจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยและติดตามอัปเดตสถานการณ์ของชาล็อตมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชาล็อตกำลังอยู่ในช่วงที่จิตใจอ่อนไหว ทางเราขอส่งกำลังใจให้ชาล็อต และขอความกรุณาทุกท่านใช้ถ้อยคำที่สุภาพ พร้อมหลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นที่อาจซ้ำเติมหรือกระทบจิตใจผู้เสียหายค่ะ

ขอแสดงความนับถือ,

บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน”


ขณะที่ เฟซบุ๊ก Pahkapan HomgLOB (Vanny) หรือ ผกาพันธุ์ หอมกลบ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรม มิสแกรนด์ไทยแลนด์ และมิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล ได้โพสต์อัพเดทเกี่ยวกับชาล็อตว่า


“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิจฉาชีพได้ติดต่อชาล็อต โดยอ้างว่าเอกสารส่วนตัวของน้องถูกนำไปใช้เปิดบัญชีธนาคารอย่างผิดกฎหมาย โดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารอดีตสาขากรุงไทย สุพรรณบุรี เป็นผู้เปิดบัญชีนี้เพื่อรับเงินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของบุคคลหนึ่ง ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีคดีฟอกเงินและเคยเป็นข่าวใหญ่ในประเทศไทย


ด้วยความตกใจ ชาล็อตได้ค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง และเมื่อพบข่าวที่ตรงกับสิ่งที่มิจฉาชีพกล่าวอ้าง น้องจึงหลงเชื่อ โดยหวังที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งข้อมูลบัญชีที่ถืออยู่ ยอดเงินในบัญชี หรือรายละเอียดอื่นๆ


มิจฉาชีพได้ใช้จังหวะที่น้องอยู่ในความหวาดกลัว กดดันให้น้องไม่ติดต่อใคร ไม่ส่งข้อความหรือเอกสารใดๆ โดยอ้างว่ากระบวนการอยู่ในขั้นตอนของคดีและเป็นเรื่องความลับ พร้อมทั้งหลอกให้น้องโอนเงินโดยอ้างว่าจะตรวจสอบที่มาของเงินและจะคืนเงินให้ภายหลังเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น


ซึ่งการมีสติในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ชาล็อตเองกำลังอยู่ระหว่างการรักษาโรคซึมเศร้าและมีภาวะแพนิค ซึ่งส่งผลให้การตัดสินใจในสถานการณ์นี้ยากยิ่งขึ้น


สิ่งที่อยากขอจากทุกท่านคือการใช้ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่ต้องเผชิญเหตุการณ์เช่นนี้ ขอให้พิจารณาถ้อยคำที่ใช้ในการวิจารณ์ และไม่ซ้ำเติมผู้ที่ตกเป็นเหยื่อค่ะ”


ด้าน ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน ไลฟ์กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชาล็อต บอกว่า เชื่อว่าที่ชาล็อตหลงถูกหลอก เพราะมิจฉาชีพน่าจะมีจิตวิทยาคล้ายการสะกดจิต ส่วนตัวน้องเองก็เป็นแพนิก เลยทำให้ไม่กล้าวางสาย  ยอมทำตามแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงทั้งหมด นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากทีมงานว่า ชาล็อตเสียงรนและร้องไห้ บอกกับทีมงานว่าไม่สามารถใช้โทรศัพท์ของตัวเองโทรได้ เพราะต้องวิดีโอคอลกับมิจฉาชีพ ไม่กล้าวางสาย


ซึ่ง คุณณวัฒน์ ก็สงสัยว่า ชาล็อตจะวิดีโอคอลกับมิจฉาชีพทำไม ทำไมไม่หยุด ทำไมไม่วางสาย พร้อมกับสั่งให้ทีมงานบอกให้ชาล็อตวางได้แล้ว พอแล้ว ทีมงานก็บอกให้ชาล็อตถอดซิมศัพท์ออกเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้คงมีโอกาสได้พูดคุยกับชาล็อตอีกครั้งว่า อะไรทำให้สติหลุดไปไกลได้ขนาดนั้น


คุณณวัฒน์ บอกด้วยว่า ส่วนตัวเคยเตือนคนในองค์กรแล้วว่า ถ้ามีมิจฉาชีพลักษณะนี้โทรมา ไม่ต้องสนใจ อย่าไปคุยด้วย ไม่รู้ว่าชาล็อตไปคุยกับมิจฉาชีพทำไม แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ไม่อยากจะดุน้อง เพราะมันผ่านไปแล้ว แต่บอกได้แค่ว่าเซ็งมากๆ ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น


ส่วนหลังจากนี้ จะให้เวลาชาล็อตรักษาสุขภาพจิต ซึ่งมีทีมงานเข้าไปดูแลแล้ว และอาจจะให้ชาล็อตมาแจกของขวัญให้แฟนๆ ในวันที่ 12 เดือน 12 และพูดเรื่องราวที่เกิดขึ้น


ด้าน อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 และรองอันดับ 1 มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชันแนล 2022 พี่สาวคนสนิทของชาล็อต เปิดเผยว่า ตอนนี้ชาล็อตปลอดภัยดีแล้ว และอยู่ในการดูแลของบริษัท แต่ยังมีความตื่นตระหนกตกใจอยู่ ซึ่งในส่วนของรายละเอียดต่างๆ คงต้องรอให้น้องมาบอกเอง


อิงฟ้า บอกว่า ความจริงชาล็อตมีภารกิจไลฟ์กับทีมหยดฝนกลิ่นสนิม ตนทักไปถามว่าน้องอยู่ที่ไหน ก็ได้รับคำตอบว่าอยู่ สน. ก็พยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่น้องยังบอกยังพูดอะไรไม่ได้ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมง ก็ยังเงียบอยู่ ทำให้ตนไม่สบายใจ จนกระทั่งตีสี่ น้องไปลงบันทึกประจำวันเสร็จเรียบร้อย


อิงฟ้า บอกอีกว่า มิจฉาชีพโทรมาหาชาล็อต แล้วหลอกว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ หลอกว่าชาล็อตพัวพันกับคดีฟอกเงิน คล้ายๆ กับเปิดบัญชีม้า มีการสั่งให้วิดีโอคอล และข่มขู่ไม่ให้ติดต่อพูดคุยกับใคร ตัวชาล็อตเองกลัว น่าจะทำอะไรไม่ถูก ทำให้ชาล็อตไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าวางสาย สรุปว่ามิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไป 3 ครั้ง จำนวน 4 ล้านบาท แต่ตอนนี้ชาล็อตอยู่ในความดูแลของทีมงานแล้ว ส่วนตนเองนั้นด้วยความเป็นห่วงก็พยายามสอบถามกับเลขา พยายามติดตามจนไม่ได้นอน


อิงฟ้า บอกด้วยว่า ตอนนี้คุณณวัฒน์ อยู่ฟิลิปปินส์ คาดว่าเมื่อเสร็จภารกิจก็น่าจะรีบกลับมา และอาจเปิดแถลงข่าวรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์  


อิงฟ้า ยังเปิดเผยด้วยว่า ตัวเองก็เคยโดน แต่ว่าตั้งสติได้ทัน โดยเล่ารายละเอียดว่า ตนเองเคยโดนมิจฉาชีพโทรมา บอกว่าเป็นตำรวจ อ้างว่าตัวเธอเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน ซึ่งแว๊บแรกอิงฟ้าบอกว่า ต้องตั้งสติก่อน ก็เลยถามไปว่าชื่ออะไร ทำหน้าที่อะไร อยู่ สน.ไหน ถามประมาณ 3 รอบ จนอีกฝ่ายเริ่มหงุดหงิด ตอนแรกเธอคิดว่าจะตัดสาย แต่เคยมีประสบการณ์ว่าตัดสายแล้วเขาเปลี่ยนเบอร์ใหม่โทรมาเรื่อยๆ แต่หลังจากซักนู่นนี่เยอะๆ มิจฉาชีพก็ด่าแล้วก็ตัดสายไป จากนั้นก็ไม่โทรมาอีกเลย


“แต่หนูว่าพออยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ บางคนตื่นตระหนก มันต้องใจเย็นๆ จริงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็อยากจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ว่าหลักการทำงานของตำรวจ ถ้าเรากระทำความผิดจริงๆ อย่างมากเขาจะโทรเรียกเราไปสอบถามที่ สน. จะไม่มีการสอบถามข้อมูลเชิงลึกผ่านทางออนไลน์แน่นอน อยากให้ทุกคนรับทราบตรงนี้ไว้ ถ้าเราไม่สบายใจจริงๆ ก็สามารถสอบถามเขาได้ ว่าโทรจาก สน.ไหน แล้วค่อยไปเช็กว่าเรามีเหตุอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ใจเย็นๆ”


“มันปราบปรามไม่ได้อยู่แล้ว แล้วมันตามตัวยากมากๆ มันเกิดขึ้นเยอะมากๆ ด้วยในช่วงนี้ อยากให้ระวังกัน หลังๆ มาหนูแทบไม่รับเบอร์แปลกเลย คิดว่าถ้าติดต่องานก็ผ่านทางกองไปเลย บางทีการพูดคุยก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร เผลอๆ ดึงเสียงเราไปดัดแปลงอีก ก็อันตรายรอบด้านค่ะ หลังจากนี้ก็เดี๋ยวรอทางบอสกับน้องออกมา เพราะน้องอาจจะยังตื่นตระหนกด้วย”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ovUq-w8_XHQ