เปิดใจ 'แซม ยุรนันท์' รับเป็นผอ.ดูแลสินค้า แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ตกใจมีคนล้มเหลว พร้อมร่วมมือเยียวยา

เปิดใจ “แซม ยุรนันท์” รับเป็น ผอ.ดูแลสินค้าแต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ มีตำแหน่งแต่ไร้อำนาจบริหาร ไม่ได้รวยจากขายตรง ตกใจเหมือนกันเรื่องมีคนล้มเหลวไม่เคยรู้ พร้อมร่วมมือเยียวยา-ผิดถูกค่อยว่ากัน

วานนี้ (9 ต.ค.) แซม ยุรนันท์ เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า ตนเองได้เรียนในหลักสูตรหลักสูตรหนึ่งพร้อมกับ บอส....เจ้าของบริษัทนี้ จึงได้มีโอกาสคุยกัน ก่อนจะตัดสินใจมาทำงานร่วมกัน ยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้บริหารบริษัทในส่วนของสินค้า แต่ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจใดใดในบริษัท เพราะคนที่มีอำนาจตัดสินใจ คือ เจ้าของคนเดียว ส่วนตัวเขาจะรับผิดชอบ ด้านดูแลวิจัยพัฒนาสินค้าของบริษัท พัฒนาสินค้าให้กระจายทั่วโลก ให้สินค้าไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก และมีคลาสสอนออนไลน์ วันอาทิตย์ ครั้งละครึ่งชั่วโมง เป็นการสอนเรื่องความรู้เรื่องสินค้า

ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับ การจัดการเรื่องในบริษัทเลย และไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีคนที่ล้มเหลวจากการทำธุรกิจนี้ เพราะที่ผ่านมาเจอและพูดคุยกันกับคนที่ประสบความสำเร็จซะเป็นส่วนหนึ่ง พร้อมให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือทุกคน

เมื่อถามว่าได้คุยกับเจ้าของบริษัทบ้างหรือไม่ แซม ยุรนันท์ บอกว่า เมื่อวานได้คุยกัน และตัวเขาแนะนำให้เร่งแถลงข่าว เพื่อให้ชัดเจน  แต่หลังจากนั้นยังไม่ได้คุยกันเลย เพราะติดถ่ายละคร เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่กับเรื่องนี้ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่กังวลและพร้อมร่วมมือทุกอย่างเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องผิดถูกควรไว้ที่หลัง ค่อยว่ากัน การเยียวยาต้องมาก่อน

เมื่อถามถึงหน้าที่แท้จริงในบริษัท แซม ยุรนันท์ ตอบว่า "ขอบเขตหน้าที่ของตำแหน่งนี้ คือ ช่วยคิดค้น ตามหานวัตกรรมใหม่ๆ เทรนด์ของโลกไปทางไหน นำความโดดเด่นมาใช้ เอาจริงๆ เป็นแค่ที่ปรึกษานะ เพราะให้แค่หน้าที่ ไม่ให้อำนาจในการตัดสินใจ มีแค่ให้ข้อเสนอแนะเฉยๆ พี่ก็ค่อยๆ เรียนรู้การทำงานไปเรื่อยๆ หน้าที่ของพี่อีกอย่าง ทุกวันอาทิตย์มีคลาส 1 ชั่วโมง เป็นคลาสแล้วแต่ความสนใจของแต่ละคน อย่างคราสของพี่ คือ เกี่ยวกับสินค้า เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และข้อมูลเชิงลึก"

นักข่าวถามว่ามีแพลนไม่ต่อสัญญาหรือไม่  แซม ยุรนันท์ ตอบว่า "เมื่อคืนที่แล้ว ยังบอกว่า พี่อาจจะไม่ต่อ เพราะการทำงานอาจจะไม่ใช่แนวพี่ เพราะพี่พูดก่อนเมื่อเกือบเดือนที่แล้ว กำลังจะใกล้หมดสัญญาพอดี เพราะบางอย่างพี่เสนอไป แล้วเขาก็ปฏิเสธ ทำให้พี่รู้สึกเสียเซลฟ์บ้าง จนต้องไปฟ้องเมีย เพราะเจ้าของเขาไม่เอา ทำยังไงได้ แต่พอมาถึงเหตุการณ์แบบนี้ พี่ก็บอกว่า พอลออกมาพูดให้สังคมเขารู้นะ เพราะพี่เป็นคนของประชาชนมาตั้งแต่เด็ก"

ส่วนความรู้สึกหลังทราบข่าว แซม ยุรนันท์ บอกว่า "เห็นข่าวแล้วตกใจมาก บางคนล้มละลาย ไม่มีจะกิน มันเกิดจากอะไร เพราะเราได้รับข้อมูลจากเขา ที่ทำให้เห็นว่า เป็นธุรกิจที่หลายคนได้ผลประโยชน์ แต่พอรู้ว่า มีคนที่ขายไม่ได้ มันเกิดจากอะไร แล้วทำไมเขาขายไม่ได้ ทำไมถึงซื้อไปเยอะขนาดนั้น คุณไปหลอกเขาหรือเปล่า และหลอกวิธีไหน แต่ตอนนี้เรื่องความเดือดร้อน ต้องไปช่วยเขาละ ใครขายเก่งๆ ต้องมาช่วยเขาแล้ว"

นักข่าวถามถึงเรื่องดราม่าหลอกให้ลงทุนแซม ยุรนันท์ ตอบว่า "เช่นเดียวกับคนที่บอกว่า ขายได้เยอะ ไม่มีใครมาเล่า แต่ตอนนี้มีมุมเดียว คนที่ขายไม่ได้ มันเกิดจากอะไร หรือ มันเกิดจากสภาพเศรษฐกิจ เพราะหลายคนได้รับผลกระทบเยอะมาก กำลังซื้อมันถดถอยอยู่แล้ว ตอนนี้พี่ไม่ได้มองเรื่องผิดถูก แต่พี่มองว่า เราจะช่วยเหลือกันอย่างไรต่อ"

นักข่าวถามถึงรายได้ส่วนต่างจากบริษัท มีคนบอกว่า เรารวยจากตรงนี้  แซม ยุรนันท์ ระบุว่า "เขาจะส่งสินค้ามาให้พี่ทุกเดือน เช่น เดือนนี้ขายได้เท่าไหร่ เราก็จะได้จากส่วนนั้น เหตุผลที่ไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะเขาใจดีให้ส่วนต่างเพิ่ม หากสินค้าขายได้ แต่ถ้าขายไม่ได้ ก็ต้องยอมรับ ซึ่งสิ่งที่เราได้ พี่ไม่รู้ว่าระบบตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ที่เราทราบคือ ระบบพรีเซนเตอร์ บางยี่ห้อจะได้คอมมิชชั่น เพื่อจูงใจให้คนขายอย่างที่ทราบ อาทิ ถ้าเราโพสต์ลงไอจี หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่พี่ไม่ได้ร่ำรวยจากตรงนี้ พี่มีทุกอย่างมาก่อนหรือเปล่า บ้านรถ หรืออะไร แต่เรื่องความโกรธแค้น ที่กระหน่ำเข้ามา ทำให้เกิดความไขว้เขว พี่อยากให้แยกให้ออก เพราะถ้ามองแต่ตรงนั้น มันจะแก้ปัญหาไม่ได้ พี่เชื่อว่า พอลจะช่วยเยียวยา คนที่ไปไม่รอด มันคือเรื่องของมนุษยธรรม เขายินดีรับข้อเสนอ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตอนไหน ส่วนเรื่องผิดถูกคืออีกเรื่อง"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/1LIOEFyY_Gs