'ลิลลี่ เหงียน' ฟาด 'ปู มัณฑนา' ถ้าพี่หน้าด้านพอหนูยกหนี้ให้ ถือว่าทำบุญ

“ลิลลี่ เหงียน” ฟาดกลับ! “ปู มัณฑนา” หลังถูกกล่าวหาพามิจฉาชีพเข้ามาทำให้เสียหาย ลั่น ถ้าพี่หน้าด้านพอ หนูยกหนี้ให้ก็ได้ ถือว่าทำบุญแล้วออกไปจากชีวิตหนูซะ

จากกรณีที่นางแบบสาว ลูกหมี-รัศมี ทองสิริไพรศรี แถลงข่าวว่าถูกอดีตดาราและนางงามมีสามีเป็นนักการเมือง ยืมเงินแล้วจ่ายเช็คเด้ง 2 ล้านบาท ที่ผ่านมามีการทวงถามแล้วแต่ไม่ได้คืน

ต่อมา ปู มัณฑนา หิมะทองคำ และนายหาญส์ - ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ สามี ได้มอบหมายให้ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ และมีการโต้ตอบว่าอีกฝ่ายมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม และนำเรื่องไปออกสื่อจนทำให้เกิดความเสียหายต่อคนในครอบครัว

ล่าสุดเมื่อวานนี้ ‘ลิลลี่ เหงียน’ หนึ่งในผู้เสียหายได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจว่าที่ “ปู มัณฑนา” ได้พูดถึงตนเองว่า เป็นคนพามิจฉาชีพเข้ามาทำให้ “ปู” ต้องสูญเสียเงิน 500,000 บาท ‘ลิลลี่’ ก็ขอชี้แจงตรงนี้ว่ามันไม่เป็นความจริงเลย คนที่เสียเงินคือเธอ เพื่อที่จะช่วยปู ซึ่งเธอจะขอฝากข้อความนี้ถึง ปู มัณฑนา ให้ได้ฟังทุกอย่างที่เธอได้พูดออกไปมันคือความจริง

โดยเริ่มต้นคนที่เขากล่าวอ้างว่าเป็นมิจฉาชีพ คือตนรู้จัก พี่กอไก่ ในร้านร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วก็บังเอิญเจอกัน แลก LINE คุยกัน แต่ไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน เนื่องจากพี่กอไก่ คนนี้เคยดูข่าวที่ลี่เคยถูกโกง 50 ล้านบาท และเขาก็เข้ามาให้กำลังใจ นั่นคือวันแรกที่เรารู้จักกัน จากนั้นมาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ปูได้แจ้งว่าพี่ปูถูกโกงที่ดินร้อยล้าน ปูก็เครียดมาก ๆ ก็เลยจะชวนลิลลี่ไปทานข้าวด้วยกันที่ทองหล่อ แต่ตัวลิลลี่ได้นัดกับพี่กอไก่คนนี้ไว้แล้ว ซึ่งพี่ก็กอไก่คนนี้ได้โทรมาหาลิลลี่ว่าพี่อกหัก พี่เสียใจไม่มีเพื่อน ลี่ก็เลยชวนมากินข้าว และมาเจอกันกับพี่ปู

พออยู่ที่ร้านอาหาร พี่ปูก็บอกว่าพี่ปูถูกโกงที่ดิน 100 ล้าน แล้วพี่ก็กอไก่ก็เสนอช่วยพี่ปู เกี่ยวกับเรื่องที่ดิน วันนั้นหนูก็เป็นพยานให้พี่ปูได้ พี่กอไก่ บอกว่าเดี๋ยวจะช่วยนะไม่ต้องเสียเงินอะไรเลย

แต่จากนั้นพี่ปูก็นัดไปเจอกันที่ร้านอาหารอิตาเลียนแห่งหนึ่ง พอเจอกันหนูก็ไม่ได้สนิทกับพี่กอไก่ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้น พี่กอไก่ บอกว่าไม่มีการเสียเงินใด ๆ ทั้งสิ้น แต่พอคุยอีกครั้ง พี่กอไก่บอกว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท ซึ่งตรงนี้หนูกับพี่ปูบอกกับพี่กอไก่ว่างั้นขอยุติการดำเนินการ เพราะว่าตอนนี้พี่ปูไม่มีเงิน

แต่พี่กอไก่ คนนี้ได้บอกว่าพูดกับผู้ใหญ่แล้วมันเสียคำพูดไม่ได้ เสียหน้าไม่ได้ แต่พวกเราสองคนก็ไม่โอเคที่พี่ปูจะต้องจ่ายเงิน 400,000 แต่อยู่ ๆ พี่กอไก่ ก็โอนเงินจากบัญชีตัวเองไปให้ผู้ใหญ่ที่อ้างว่าจะช่วยพี่ปู พอเขาโอนเงินไปให้ผู้ใหญ่ เราขอดูสลิปเขาก็ให้ดูสลิปแป๊บเดียว แล้วขอให้หนู (ลิลลี่) โอนให้ พี่กอไก่ 1 แสนด้วย

ซึ่งตอนนั้นลี่ก็โชว์เงินในบัญชีว่าเหลือเงินแค่ 250,000 บาท ซึ่งไม่มีศักยภาพจะช่วยเหลือได้ แต่พี่กอไก่ก็พยายามให้หนูช่วยเพื่อการันตีให้พี่ปู แต่เมื่อดำเนินการไปแล้ว พี่กอไก่ ไม่สามารถช่วยตามที่บอกได้ เลื่อนไปเรื่อย ๆ

และหลังจากนั้นลูกชายหนูเข้าโรงพยาบาล หนูจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปจ่ายค่าประกันให้กับลูกชายกับคุณแม่ แต่พี่ปูก็มาหลอกหนูว่าน้องลี่พี่ขอยืมเงินหน่อย 70,000 บาท เดี๋ยวพี่จะคืนตอนเย็น เพราะพี่จะเอาเงินนี้ไปทำสัญญาได้งานแล้วพี่จะคืนให้เลย แต่วันนั้นจนถึงวันนี้หนูไม่ได้เงิน หนูมีหลักฐานทั้งหมด

ก่อนหน้านี้พี่ปูยืมเงินหนูรวมทั้งหมด 8 แสนบาท โดยเงินก้อนนั้นได้มาคืนแค่ 2 แสนบาท ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยทวงไม่เคยคิดดอกเบี้ย มีแต่ฝ่ายพี่ปูที่จะเสนอดอกเบี้ยเอง เมื่อมารวมกับยอดล่าสุดทั้งหมดก็ตก 670,000 บาท

แล้วพี่ปูมาทำร้ายจิตใจหนู หนูไม่โอเค ตอนนี้หนูไม่สนใจเลยกับเงินที่เป็นหนี้ 670,000 บาท เพราะว่าหลายปีที่ผ่านมาหนูโดนโกงตั้ง 100 ล้าน หนูยังไม่สนใจเลย กับไอ้แค่ 670,000 บาท ถ้าพี่หน้าด้านพอ โดยที่ไม่ต้องพูดให้มันยืดเยื้อ เพราะหนูเบื่อกับคำว่าเดี๋ยวก่อน รอก่อน เพราะหนูเป็นคนทวงหนี้คนไม่เก่ง เพราะไม่งั้นคงไม่สูญเสียเงินไปมากขนาดนั้น พี่ก็พูดมาเลย หนูยกหนี้ให้เลยถือว่าหนูทำบุญแล้วออกไปจากชีวิตหนูซะ หนูพูดจริงๆเงินแค่ 670,000 บาท ตอนนี้เงินในกระเป๋าหนูเกลี้ยงเลย แต่หนูใจป๋า หนูให้พี่เลยถือว่าหนูทำบุญทำทาน หนูคงได้บุญกลับมา แล้วหวังว่าบุญนี้จะส่งผลให้พี่มีดวงตาเห็นธรรมบ้าง

แล้วถ้าสิ่งไหนที่หนูพูดไม่จริง พี่กล้าออกมาพูดความจริงเรื่องของหนูหรือเปล่า ถ้าพี่ฟ้องมา หนูฟ้องกลับ ไม่รับคำขอโทษขอรับเป็นเงินสด จะบอกว่าลี่โกรธ เสียใจแล้วก็ไม่ยุติธรรมกับลี่ ไม่โอเคเลย ถ้าคำพูดของลี่มันไปสะกิดจิตใจของพี่ และพี่หาญ ถ้าพี่ฟ้องหนู หนูก็ฟ้องพี่กลับเหมือนกัน

ที่ผ่านมาพี่ปูคุยกับหนูแต่ละที น้องลี่หานายทุน หานักลงทุนให้พี่หน่อย อ้างว่าช่วยให้หนูมีผลงานนู่นนี่นั่น แต่หนูยังไม่เคยเห็นอะไรซักอย่าง เขาเคยพาหนูไปกองถ่ายหนึ่งครั้ง หนูก็ดีใจมากๆ พี่เขาบอกว่าจะช่วยหนูก็ดีใจ หนูก็เลยให้พี่เขายืมเงินไป

หนูก็ยอมแล้วหนูเหนื่อยจริงๆเลยกับพี่ปู หนูก็เลยยกหนี้ให้แล้วกัน เพราะว่าที่ผ่านมาหนูก็โดนเยอะ หนูจะไม่พูดอะไรอีกกับพี่ปู แต่หนูได้ยินมาว่าพี่ปูกับพี่หาญจะฟ้องหนู หนูจะไม่ขอความเมตตาจากพี่ปูกับพี่หาญ มันเปลืองน้ำลายหนู แต่หนูขอความเมตตาจากประชาชนผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่เมือง หนูลิลลี่เป็นชาวต่างชาติ หนูรักประเทศไทยมาก หนูมีกินมีใช้ก็แผ่นดินไทย เข้าใจศาสนาพุทธก็แผ่นดินไทย กินอิ่มนอนหลับก็แผ่นดินไทย และหนูก็รักประเทศไทยเหลือเกิน

หนูเชื่อว่ายังมีคนไทยที่มีจิตใจดีมีเมตตา แล้วหนูก็ขอผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่เมืองช่วยหนูด้วย หนูไม่มีใครเลย ตอนนี้หนูก็กลัวเหมือนกัน ตัวหนูไม่ได้มีสติปัญญามาก ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมาย วันนี้หนูใช้คำพูดไม่ดีหรือหยาบคายอาจเป็นเพราะอารมณ์ แต่หนูก็ตั้งใจพูดแบบนั้นจริงๆ เพราะหนูอยากให้เขารู้ว่าหนูโกรธเป็น โมโหได้ โมโหร้ายเหมือนกัน อย่าเหยียบหนู เพราะหนูก็อยากปกป้องตัวเองเหมือนกัน

ขณะที่ฝั่งของ ‘ปู มัณฑนา’ ล่าสุดก็มีรายงานว่า “ปู มัณฑนา” มีอาการเครียดและอ่อนเพลีย เนื่องจากติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นผ่านโลกออนไลน์ ทำให้มีความเครียดและนอนไม่หลับ และได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/zUkGhf4Adgs