บันเทิง
มหากาพย์ดรามา 'ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์-แพรวพราว แสงทอง' แฉกันยับ ปมมือที่ 3 ทำครอบครัวพัง
โดย paweena_c
23 ก.พ. 2567
731 views
มหากาพย์ดรามา 'ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ – แพรวพราว แสงทอง' ปมมือที่ 3 ทำครอบครัวพัง จากนี้ขออยู่ในสถานะพ่อแม่ของลูกเท่านั้น
ประเด็นที่กำลังเป็นทอล์กอ๊อฟเดอะทาวน์ในโลกออนไลน์ขณะนี้กันบ้าง กับเรื่องของ “บิ๊ก-ธิติวุฒิ วารุณ” หรือ “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่มีคนติดตามช่อง YouTube กว่า 6 แสนคน ซึ่งกำลังตกเป็นข่าว ว่ามีปัญหากับภรรยา “แพรวพราว แสงทอง” หมอลำสาว ที่อยู่กินกันมานานกว่า 5 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน
ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนหมอลำ และเป็นแฟนคลับของพวกเขา ก็คงจะทราบว่าทั้งคู่ อายุห่างกัน 12 ปี โดยฝ่ายชายอายุน้อยกว่า เพิ่งจะ 23 ปี และทั้งคู่ได้ร่วมกันก่อตั้งวงหมอลำ “แสงทองฟินแลนด์” ขึ้นมา และใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ด้วยกันที่จังหวัดยโสธร
แน่นอนว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงหลังจากฝ่ายชายได้ออกมาโพสต์ Facebook แฉฝ่ายหญิงว่านอกใจ มีมือที่สามทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก และตอนนี้ตัวเองกับภรรยาอยู่ในสถานะพ่อแม่ของลูกเท่านั้น
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ASTZwicM1Bw
จากนั้นด้านหมอลำสาว “แพรวพราว แสงทอง” ก็ได้ออกมาโพสต์โต้กลับ บอกว่า
“เหยียบฉันให้จมดินไปเลย...ถ้ามันทำให้เทอมีความสุข ถ้าคิดว่ามันเป็นผลดีกับลูก เด็กตาดำๆที่กำลังเติบโต...ขอบคุณที่ยังมีบางคนมองเห็นเหตุผลและเชื่อมั่นในตัวผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่ใช่คนดี100% แต่กูกะบ่ได้ชั่วพอที่จะทำร้ายครอบครัว และเหยียบย่ำคนในครอบครัว หรือพูดเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้น และเหยียบอีกคนให้ต่ำลง นี่หรอคำว่าลูกผู้ชาย...? ต่อไปนี้อะไรจะเกิดให้มันเกิดแต่จงจำไว้นะว่าผู้หญิงมันจดจำทุกเหตุการณ์ มันอาจจะไม่เคยพูด แต่มันสะสมทุกอย่าง อย่าคิดว่าตัวเองทำถูกต้องทุกอย่างเสมอไป ฉันก็คน มีความรู้สึก เจ็บเป็น!!”
พร้อมกับย้ำว่า “โพสต์เดียวและโพสต์สุดท้าย…ที่จะพูด (เพราะลูกคือหัวใจ)”
ซึ่งแฟนคลับที่ติดตามทั้งคู่ ก็ต่างเข้ามาให้กำลังใจ อยากให้ทั้งคู่หันหน้ามาปรับความเข้าใจกัน
ล่าสุดเมื่อวานนี่ ทาง “บิ๊ก” ก็ได้ออกมาไลฟ์ทางเฟซบุ๊ก ช่วงนึงได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
“อยู่ด้วยกันมา 5 ปีแล้ว ตนก็ไม่ได้ไปไหน และตนก็ตั้งใจว่าจะมาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่ และคุยกันหมดแล้ว ต่อจากนี้ก็คงทำหน้าที่เป็นพ่อเป็นแม่เหมือนเดิม เพราะลูกก็อยู่ที่นี่ และตนก็คงไม่ไปไหนเพราะผูกพันธ์กับที่นี่ ทั้งนี้ความรู้สึกที่เสียไปแล้วยังไงก็เอาคืนไม่ได้ ส่วนวงดนตรีแสงทองฟินแลนด์ตนก็ไม่ได้ทิ้งไปไหน ยังขึ้นเวทีเหมือนเดิม ยังบริหารงานเหมือนเดิมทุกอย่าง แค่เราต้องสู้ต่อไป ส่วนเอฟซีจะว่าอย่างไร ตำหินติเตียนอย่างไรก็ทนได้
แต่ที่มีปัญหาเพราะคนที่ 3 เข้ามาเหยียบย่ำศักดิ์ศรี เป็นลูกผู้ชายด้วยกันก็ควรมีจิตสำนักบ้าง คุณรู้อยู่ว่าอยู่ไปแล้วทำให้ครอบครัวเขามีปัญหาคุณต้องถอย แต่นี่ยังหน้าด้านอยู่ พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้จะมาพูดใส่ร้ายใคร แต่มีหลักฐานทุกอย่าง เพราะคอยสังเกตุมา 2 เดือนแล้ว และวันหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้ตนก็ต้องใช้
ย้ำว่าไม่พูดว่าใคร เพราะให้เกียรติแม่ของลูก ไม่พูดหมดทุกอย่าง ที่พูดอยู่นี้ไม่ได้อยากเลิกกับเมีย แต่พูดในส่วนของตัวเอง เพราะในวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วคนก็ต้องรู้
ขณะที่ "แพรวพราว แสงทอง" ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านไลฟ์สดเมื่อเย็นวานนี้ ยอมรับว่าเผลอใจคุยกับผู้ชายคนอื่น แต่ไม่ได้ชั่วถึงขนาดไม่ซื่อสัตย์กับลูกกับผัว เผยเหตุผลน้อยใจ "บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์" ติดเที่ยว บาร์เกย์,ไปบาร์โฮล ไม่มีเวลาให้ครอบครัว โดยได้บอกว่า
"วันนี้พร้อมที่จะพูด ซึ่งที่ตนเองเงียบก่อนหน้านี้เพราะไม่อยากให้ลูกต้องมาเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน
ประเด็นแรกที่จะพูด คือประเด็น คำว่ามือที่ 3 เพราะจากโพสต์ของ "บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์" ทำให้คนเข้าใจว่าตนนั้นไปนอนกับผู้อื่น ซึ่งตนขอสาบานเลยว่าไม่เคยไปมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้อื่น ตนไม่ชั่วถึงขนาดไม่ซื่อสัตย์กับลูกกับผัว แต่ยอมรับเวลาที่เราแย่หรือน้อยใจ ซึ่งผัวเมียอยู่ด้วยกันมันมีแน่ที่ไม่เข้าใจกันและน้อยใจกัน และเราคุยกับบางคนแล้วรู้สึกดี ซึ่งพอ "บิ๊ก" รับรู้เรื่องนี้ก็ได้มีการเปิดใจคุยกันแล้ว และ "บิ๊ก" รับไม่ได้เพราะเป็นคนขี้หึงเมีย และบิ๊กก็ขอถอยออกมาก่อน เพราะใจเขารู้สึกไม่โอเค
ยอมรับว่าช่วงหนึ่งเคยน้อยใจสามี ในสิ่งที่เขาปล่อยประละเลย เขาเลือกที่จะไปเที่ยวไปกับคนอื่น ไม่คิดจะอยู่กับลูกกับเมีย เลือกที่จะไปเที่ยวยันเช้า ไปบาร์เกย์,ไปบาร์โฮส ซึ่งตนก็คิดน้อยใจว่าทำไม ไม่อยากอยู่กับตน
ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของ "แพรวพราว" ที่เก็บความรู้สึกน้อยใจ และพลาดไปคุยกับบุลคลที่ 3 คุยแล้วรู้สึกดี แต่ไม่เรื่องของเชิงชู้สาว ยังซื่อสัตย์กับลูก กับสามี
จากนั้นฝ่ายชายก็ได้ออกมาไลฟ์อีกครั้ง ผ่านเฟซบุ๊ค ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ โดยระบุว่า ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์ ขอถอยออกมาเอง ถ้าอยู่แล้วมันอึดอัดไม่อยากให้ทุกคนลำบาก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงต่อไป แต่ก็ยังดูแลโตเกียวมิวสิคเหมือนเดิม ศิลปิน ผลงานยังพบกันได้เหมือนเดิม งานไหนที่ผมรับแล้วก็จะไปทุกงาน แต่ถ้างานไหนที่ผมไม่ได้รับผมก็ไม่ไป ถ้าเค้าออกมาไลฟ์อีกผมก็จะไม่ไลฟ์แล้ว ให้มันจบไป
และยังระบุอีกว่าที่ดินที่ซื้อไว้ อะไรที่เป็นชื่อตนเองจะมอบให้ลูก โดยเจ้าตัวได้ปาดน้ำตากลางไลฟ์บอกชีวิตต้องไปต่อ เจ็บนานไม่ได้ เพราะมีภาระ และค่าใช้จ่าย ในความเป็นพ่อแม่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ดูแลลูกเหมือนเดิมเต็มร้อย โปรดเข้าใจและขอโทษทีมงานทุกคนด้วย"