ชนะคดีละเมิด! ศาลสั่งยกเลิกแบนภาพยนตร์ “เชคสเปียร์ต้องตาย” หลังต่อสู้นาน 11 ปี

เรียกว่าเป็นบทสรุปสำหรับการต่อสู้อันยาวนานกว่า 11 ปี สำหรับภาพยนตร์ “เชคสเปียร์ต้องตาย” ผลงานการกำกับของ ‘สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์’ และอำนวยการสร้างโดย ‘มานิต ศรีวานิชภูมิ’ ที่ถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ มีคำสั่งห้ามฉายในราชอาณาจักร เนื่องจากมีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ

แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) นายมานิตในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ก็ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าวดีผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า “วันแห่งชัยชนะ!! ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ผู้สร้างหนังเชคสเปียร์ต้องตายชนะคดีละเมิด ยกคำสั่งแบน และให้คณะกรรมการเซ็นเซอร์ชดใช้ค่าเสียหาย จบการต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพคนทำหนังไทยที่ยาวนานกว่า 11 ปี นี่คือประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของหนังไทย ขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมมาในกระบวนการต่อสู้ครั้งนี้ รวมทั้งกำลังใจที่ส่งมาให้ ส่วนโปรแกรมการฉายจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง Finally, Shakespeare Must Die is free!!!”

ถ้าย้อนกลับไปในปี 2555 หลังจากที่ภาพยนตร์ “เชคสเปียร์ต้องตาย” ซึ่งได้ทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งของสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม แต่ต่อมาถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3 มีคำสั่งห้ามฉายภาพยนตร์ในราชอาณาจักร เนื่องจากมีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ ซึ่งเป็นกรณีที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยภาพยนตร์มีการนำภาพเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516, เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519, เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 และกรณีสงครามยาเสพติดที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,500 คน มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง

ต่อมามานิตและสมานรัชฎ์ตัดสินใจสั่งฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งห้ามฉาย พร้อมให้คณะกรรมการชดใช้ค่าเสียหาย ก่อนที่ในปี 2560 ทางศาลปกครองจะมีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากศาลเห็นว่าการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3 เป็นการใช้ดุลพินิจที่ชอบด้วยกฎหมาย จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ศาลปกครองสูงสุดก็ได้ตัดสินให้ผู้สร้างภาพยนตร์ชนะคดีละเมิด ยกคำสั่งแบน และให้คณะกรรมการชดใช้ค่าเสียหายด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/rpeKTxpc5_I