‘นุ่น รมิดา’ สูญเสียคุณพ่อกะทันหัน จากภาวะแทรกซ้อน หลังผ่าตัดโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง

ขอแสดงความเสียใจกับ ‘นุ่น รมิดา’ ภรรยาของ ‘หลุยส์ สก็อต’ ที่ล่าสุดได้โพสต์แจ้งข่าวเศร้า กับการสูญเสีย ‘คุณพ่อฉลองชัย ประภาสโนบล’ ไปอย่างกะทันหันเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16 ก.ค.) ที่วัดศรีเมืองทอง อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จากนั้นจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 18 ก.ค. และจะมีพิธีพระราชทานเพลิง ในวันที่ 19 ก.ค.

นุ่นเปิดใจทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลไปด้วยอาการความดันสูง ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง นุ่นกับพี่สาว ก็เลยปรึกษากันว่าให้คุณพ่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลดีกว่า ซึ่งหลังจากคุณหมอตรวจก็พบว่าคุณพ่อมีอาการ “เส้นเลือดใหญ่โป่งพองที่ช่องท้องลามไปถึงทรวงอก” ซึ่งถ้าเส้นเลือดใหญ่แตกก็เท่ากับถึงแก่ชีวิต ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งคุณพ่อได้เข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี คุณพ่อฟื้นตัวได้ดี ตอบสนองได้ โดยหลังผ่าตัด คุณหมอได้มาแจ้งว่า 90% คือการผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว แต่ยังต้องระวังอีก 10% เพราะยังมีความเสี่ยงเรื่องของภาวะแทรกซ้อน ในเรื่องระบบของหัวใจ

แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 14 ก.ค. คุณหมอพบว่า ไตของคุณพ่อทำงานได้ไม่ดี เพราะระหว่างการผ่าตัด คุณพ่อเสียเลือดค่อนข้างเยอะ จึงขอทำการฟอกไต เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจกับสมองได้ดีขึ้น ซึ่งการฟอกไตครั้งแรก ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แค่มีอาการอ่อนแรง

จนมาถึงเช้าวันที่ 15 ก็ฟอกไตอีกครั้ง ซึ่งทางครอบครัวก็หวังว่าคุณพ่อน่าจะอาการดีขึ้น น่าจะปัสสาวะออกได้ เพราะไตได้รับการฟื้นฟูแล้ว แต่ปรากฏว่า เวลาประมาณ 10 โมง  คุณหมอได้โทรหาพี่สาวของนุ่นบอกว่า ในขณะที่กำลังฟอกไต คุณพ่อได้หยุดหายใจไปเลย หลังจากนั้นคุณหมอก็ได้ช่วยกันปั๊มเพื่อช่วยชีวิต ซึ่งในตอนนั้น ทั้งนุ่น หลุยส์ และพี่สาว ก็กำลังขับรถไปที่โรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ไปไม่ทัน เพราะคุณพ่อได้จากไปก่อนแล้ว จากภาวะหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วขณะ ก็ถือเป็นการสูญเสียที่กะทันหันมาก แต่นุ่นและครอบครัวก็เชื่อว่าคุณหมอได้ทำเต็มที่แล้ว

นุ่นยังได้เผยความผูกพันกับคุณพ่อว่า คุณพ่อจะโทรหาตอนเช้าทุกวัน จะคอยถามว่าวันนี้ทำอะไรลูก เวลากลับบ้านต่างจังหวัด ก็จะมีคนให้ไปหา ก็คือพ่อ แต่หลังจากนี้จะไม่มีคนที่ให้กลับไปหา ไม่มีคนที่คอยโทรมาหาทุกเช้าแล้ว ก็รู้สึกโหวงๆ ซึ่งก่อนที่คุณพ่อจะเข้าโรงพยาบาลก็ได้คุยกับคุณพ่อว่า ทุกอย่างจะโอเค หมอเก่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องเจอกับความเสี่ยง 10% นั้น ซึ่งสามีก็มาอยู่ให้กำลังใจตั้งแต่วันที่คุณพ่อผ่าตัด และอยู่ข้างๆ กันมาตลอดจนวันนี้

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MpDa5fYm3GY