บันเทิง

‘ดีเจแมน - ใบเตย’ เปิดใจทั้งน้ำตา แจงทุกประเด็นคดี Forex-3D ก่อนฟังคำสั่งอัยการวันนี้ ทำใจถ้าไม่รอด

โดย chutikan_o

10 เม.ย. 2566

24 views

‘ดีเจแมน พัฒนพล’ และ ‘ใบเตย สุธีวัน’  2 สามีภรรยา พร้อมทนายความส่วนตัว ที่เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นครั้งแรก หลังจากที่มีชื่อเกี่ยวโยงกับคดี Forex-3D และ ถูก DSI ดำเนินคดีเป็นผู้ต้องหา ความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และวันนี้ (10 เม.ย.) ทางพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษนัดหมายให้ทั้งคู่เข้ารับฟังคำสั่งคดี Forex-3D  ที่สำนักงานอัยการสูงสุด รัชดา ในเวลา 10.00 น. โดยตลอดการแถลงข่าว ใบเตยก็ร้องไห้ตลอด พร้อมกับบอกว่าที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ DSI มาตลอด รวบรวมหลักฐานและพยานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ เลยอยากจะขอพูดในส่วนของตัวเองบ้าง เพราะไม่รู้ว่าคำสั่งอัยการจะออกมาแบบไหน ถ้าไม่รอดก็คือไม่รอด แต่อยากจะออกมาต่อสู้ตามขบวนการยุติธรรม



ด้านดีเจแมนก็ได้เล่าย้อนไปราว 2 ปีก่อน ที่ได้รู้จักกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหาสำคัญของคดี แชร์ Forex-3D ขณะนั้นทำงานเป็นดีเจ โดยเขาเข้าหาผ่านการเป็นแฟนคลับ ก่อนจะนำพระมาให้ตัวเอง เพราะดีเจแมนมีความชื่นชอบพระเครื่องและวัตถุโบราณ ก่อนจะมีการเช่าพระและวัตถุมงคลจากดีเจแมนไป 4 ชิ้น มูลค่าราว 13 ล้านบาท ในช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นเส้นทางการเงินตามที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบที่ได้รับจากนายอภิรักษ์ ซึ่งตอนนี้ดีเจแมนก็สามารถตอบคำถามชี้แจงได้ทั้งหมดทุกประเด็น ตามที่หลายคนสงสัย ยืนยันว่าเงินที่ได้รับเป็นการเช่าพระเครื่อง



ส่วนรูปถ่ายของดีเจแมนกับนายอภิรักษ์ ที่รับประทานอาหารที่ดาดฟ้าโรงแรมหนึ่ง ดีเจแมนไปทานกับรุ่นพี่และเขาขอติดตามมา เช่นเดียวกับการไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่บางครั้งนายอภิรักษ์ เคยขอติดตามไปด้วย ส่วนรูปการนั่งประชุม เป็นการประชุมเรื่องทำธุรกิจถั่งเช่า และอีกรูปที่นั่งโต๊ะประชุมบริษัท ดีเจแมนทำมูลนิธิเด็กพิการของครอบครัวที่ทำมานานแล้ว ซึ่งนายอภิรักษ์ ก็สนใจอยากทำมูลนิธิเช่นกัน จึงไปให้คำแนะนำและเกิดเป็นรูปดังกล่าว



ดีเจแมน ยืนยันว่า ตัวเองไม่เคยคิดทำร้ายหรือชักชวนใครมาร่วมลงทุนด้วย เพราะไม่ทราบว่านายอภิรักษ์ เคยทำอะไรมาก่อน ต้องขอโทษผู้เสียหายกับสิ่งที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าดีเจแมนก็ช่วยเหลือประชาชนผ่านการให้การเป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวน เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้น และดีเจแมนก็ไม่ได้ร่ำรวย เพราะทั้งบ้านและรถยังผ่อนไฟแนนซ์ตามปกติ เลยอยากจะขอให้ได้โอกาสต่อสู้บ้าง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยหลบหนี และยังให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่อย่างดี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคำสั่งอัยการจะออกมาแบบไหน ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีคนโทรมาบอกให้เตรียมหลักทรัพย์ไว้



ดีเจแมน ก็บอกว่า หากมีคำสั่งฟ้องและไม่ได้รับการประกันตัว ที่แถลงข่าวเพราะอยากจะขอได้พูดความจริงและมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้หมด หลังจากนี้หากพิสูจน์ได้ว่าพวกตนบริสุทธิ์ จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กล่าวหา รวมถึงคนรอบข้างได้รับความเสียหาย โดยได้รวบรวมหลักฐานมานานถึง 2 ปี



“เราให้การเป็นประโยชน์กับพนักงานสอบสวนและ DSI เป็นอย่างมากในการให้ข้อมูลต่าง ๆ   ส่วนเรื่องงานแต่งก็ได้นำเอกสารไปชี้แจงแล้ว ที่ผ่านมาเดือดร้อนมาตลอด 9 เดือน ยอมรับเครียด ไร้งาน ข่าวที่ออกไปรุนแรงเหมือนเป็นอาชญากร มันหนักมากๆ เรามีอาชีพที่เรารัก วันหนึ่งทุกคนมองเราแย่ไป เราต้องโดนแคนเซิลหนัง ละคร งานพิธีกร โดนกดดันทุกๆ ด้าน มันหนักหน่วงและเลวร้ายมาก ที่อยากออกมาพูดเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อกล่าวหาเราก็ต้องชี้แจง เราก็อยากได้ความยุติธรรม” ดีเจแมนกล่าว



ใบเตย บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้และทราบว่าการกระทำของนายอภิรักษ์ จะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีผู้เสียหายมากมายขนาดนี้ จนพวกเราก็ถูกมองว่ามีความเกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือ Forex-3D ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีชื่อในบริษัท และไม่มีพฤติการณ์เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ต้องหาล็อตแรก



“สิ่งที่ใบเตยกับพี่แมนไม่มีเลยก็คือดาวไลน์ ไม่มีผู้เสียหายไปแจ้งความ เพราะเราไม่เคยไปชักชวนใครสักคน ไม่มีลูกข่ายหรือผู้เสียหาย แต่หากมีก็ให้นำพยานหลักฐานที่แสดงว่าได้รับการชักชวนจากพวกเรา เพราะยืนยันว่าไม่เคยชักชวนผู้ใด” ใบเตย กล่าวและว่า ส่วนความเชื่อมโยงในเส้นทางการเงินที่เจ้าหน้าที่พบว่าเกี่ยวโยงกับนายอภิรักษ์ จำนวนเงินเป็นยอดเงิน 990,000 บาท ที่เป็นการทำธุรกรรมโดยตรง ไม่ได้ผ่านบริษัทที่ทำ Forex-3D และเธอก็ได้ยื่นพยานหลักฐานทั้งบุคคลและเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นค่าอะไรบ้าง 3 รายการด้วยกัน มีค่าซื้อกระเป๋าที่นายอภิรักษ์ ซื้อจากใบเตย ไปให้ภรรยาของเขา 550,000 บาท อีกหนึ่งรายการเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าโอนเงินคืนให้ภรรยานายอภิรักษ์ ที่ใช้บัตรกดเงินสดออกให้เธอก่อน ซึ่งเธอมีพยานสามารถยืนยันได้



ส่วนเรื่องร่ำรวยผิดปกตินั้น ก็มีที่มาของเงินทั้งหมด เพราะทำงานมา 17 ปี รับเงินผ่านมาทางต้นสังกัดทั้งหมด มีที่มาที่ไปของเงิน พร้อมก้บขอชี้แจงว่ามีกำลังสามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ตั้งแต่ปี 2556 ก่อนจะรู้จักกับนายอภิรักษ์ รวมถึงการทำคอนเทนต์ต่างๆ ที่ถูกสังคมจับตามองนั้น เรื่องอวดรวย ก็เผยว่าช่วงโควิดเธอต้องขยันมากเป็นพิเศษ เพราะศิลปินนักร้องไม่มีงาน รวมถึงเธอกำลังตั้งครรภ์ เป็นทั้งแม่ค้าออนไลน์ ยูทูบเบอร์ และรับงานที่เปลี่ยนแปลงไป จนไม่ได้ทำในสิ่งที่รักตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา รู้สึกเสียใจกับหลายเรื่องเป็นอย่างมาก



ท้ายสุดใบเตยถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เผยว่า สิ่งที่กลัวที่สุดคือจะไม่ได้ร้องเพลง เธอเป็นนักร้องที่มีคอนเสิร์ตทุกวันทุกปี แล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง ไม่ได้ทำสิ่งที่รักสักวัน มันเสียใจมากที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก ในฐานะคนขยันคนหนึ่ง ณ วันนี้อยากให้ทุกคนมองใบเตยกับพี่แมนว่าเราสองคนไม่ได้เป็นคนโลภเลย ไม่ได้หวังที่จะมีเงินจากสิ่งทุจริตและผิดกฎหมาย เพราะเราทำงานมาในวงการได้เงินมาจากความสุจริตและเรามีหลักฐานทุกอย่าง



ขณะที่ดีเจแมน เผยต่อว่า ผมมั่นใจ 100% สำหรับหลักฐานที่เขากล่าวหามา เราตอบได้หมด



ด้านน้องชายของใบเตยได้กล่าวสรุปว่า หากต้องมีการประกันตัว ยอมรับว่าครอบครัวไม่มีเงินเพียงพอขนาดนั้น ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ ก็ต้องทำใจ ยอมรับว่า เวลาของพี่แมนกับพี่ใบเตยมาถึงจุดนี้ ที่ผ่านมามันมีตัวอย่างมาแล้วและในตัวอย่างไม่มีใครรอด เลยรู้สึกว่า เป็นเวลาเหมาะสมที่ต้องพูดอะไรบ้าง เพราะก่อนหน้านี้อยู่ในการรวบรวมหลักฐาน ตามกระบวนการ ถ้าไม่รอดก็คือไม่รอด เราคุยกันเสมอในบ้าน

คุณอาจสนใจ

Related News