แตกต่างอย่างเข้าใจ...3 สาวงาม ‘Miss International Queen 2023’ เปล่งเสียงปลุกโลกแห่งความเท่าเทียม

ทำความรู้จัก 3 สาวงามจากการประกวด Miss International Queen 2024 เวทีระดับโลกสำหรับสาวทรานส์เจนเดอร์ ที่ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 ซึ่งปีนี้มาในธีม “The Force of Transformation” พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะร่วมสร้างโลกแห่งความเท่าเทียม โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก ได้มีโอกาสในการแสดงศักยภาพผ่านแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อให้เกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้เป็นโลกแห่งความเสมอภาคที่แท้จริง

โดยมงกุฎปีนี้ตกเป็นของ ‘คาทาลินา มาร์ซาโน (Catalina Marsano)’ กุมารแพทย์ วัย 32 ปี สาวงามจากเปรู จากม้ามืดแต่ด้วยทั้งการตอบคำถามที่เรียกได้ว่าไม่ตายไมค์ เผยศักยภาพ พลังบวกออกมาได้อย่างชัดเจน ทำให้คว้าตำแหน่ง Miss International Queen 2024 ไปครอง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าการคว้ามงกุฎครั้งนี้ถือว่าไกลเกินฝัน เพราะนี่คือการขึ้นเวทีประกวดครั้งแรกในชีวิต แค่ติด Top12 ก็ถือว่าเกินคาดแล้ว แต่นี่มาไกลถึงคว้ามงกุฎเลยทีเดียว

เธอยอมรับว่า สิ่งที่ชนะใจกรรมการคือการตอบคำถามรอบ Final ที่ได้หยิบยกเหตุการณ์ในอดีตของเธอ ที่ได้หย่าร้างกับสามี เพียงเพราะว่าเขาไม่สามารถที่จะยอมรับในตัวตนของเธอได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้หันกลับมารักและให้คุณค่าตัวเอง และเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ เธอยอมรับว่าสังคมเปรู ยังไม่ยอมรับตัวตนของกลุ่ม LGBTQ+ แม้กระทั่งตัวเธอที่เป็นกุมารแพทย์ ก็ถูกบังคับให้ต้องปิดบังเพศสภาพ เธอยังต้องแต่งชุดแพทย์ในแบบผู้ชาย และไม่สามารถเปิดเผยตัวตนในโซเชียลมีเดียได้ แต่การได้ตำแหน่งในครั้งนี้ ทำให้เธอได้รับสปอตไลท์ และพื้นที่ให้เธอได้เป็นกระบอกเสียงของกลุ่ม LGBTQ+ สะท้อนไปยังรัฐบาลเปรูว่า “พวกเราไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม” หวังว่าจะเป็นแรงกระเพื่อมไปยังสังคม ที่จะเปิดโอกาสและความเท่าเทียมให้กับพวกเรา พร้อมเป็นกำลังใจให้เด็กๆ ได้รู้จักและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมีความสุข

ขณะที่รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ตกเป็นของ ‘ปีใหม่-ศรุดา ปัญญาคำ’ ตัวแทนประเทศไทย สาวงามอายุ 30 ปี ดีกรีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน สายการบิน American Airline ที่ก่อนประกวดเจอกระแสวิจารณ์จากแฟนนางงามอย่างหนัก แต่ด้วยทัศนคติเชิงบวกและความไม่ย่อท้อ ทำให้เธอฝ่าฝันและประสบความสำเร็จ

และในฐานะเจ้าบ้าน และความสามารถทางภาษา ที่ได้ต้อนรับเพื่อนนางงามได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เธอได้เป็นนางงามมิตรภาพพ่วงอีกรางวัล

ทั้งนี้ เธอยังขอขอบคุณทุกการเคลื่อนไหวของนักขับเคลื่อน ที่ทำให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมที่รอคอย เกิดขึ้นจริงในไทย อย่างไรก็ตาม เธอยังสะท้อนปัญหาคำนำหน้านาม ที่กระทบกับการทำงานแอร์โฮสเตสของเธอ ที่ไม่ตรงกับเพศสภาพ เป็นอุปสรรคให้เธอไม่สามารถเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศแถบตะวันออกกลาง ที่ยังไม่เปิดกว้างต่อกลุ่ม LGBTQ+

ด้านรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ‘เหงียน ตวง ซาน (Nguyen Tuong San)’ สาวงามวัย 19 ปี จากประเทศเวียดนาม ที่หลงรักประเทศไทย ยกให้เป็นบ้านหลังที่สอง จนเธอสามารถสื่อสารภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว พิชิตใจแฟนนางงามชาวไทย จนเป็นไวรัลในโซเชียล แถมพ่วงรางวัลชุดแต่งกายชุดประจำชาติยอดเยี่ยม, รางวัลขวัญใจช่างภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งนี้ เธอยังสะท้อนสังคมเวียดนาม ที่ยังไม่เปิดกว้างและยอมรับกลุ่ม LGBTQ+ ได้เท่าประเทศไทย ทำให้หลายคนยังถูกด้อยค่า บูลลี่ แต่เธอขอเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ และฝากพลังบวกไปยังทุกคนให้มีความฝัน เชื่อมั่น และมีความสุขในการเป็นตัวของตัวเอง