เศรษฐกิจ

‘คลัง’ ชงแจกเงินหมื่นเฟสสอง-อีซี่ อี-รีซีท เข้าครม. 24 ธ.ค.นี้

โดย petchpawee_k

11 ชั่วโมงที่แล้ว

295 views

วานนี้ 20 ธ.ค.2567 ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. สัปดาห์หน้า หรือ วันที่ 24 ธันวาคม คลังจะเสนอ 2 โครงการกระตุ้นกำลังซื้อใหญ่เข้า ครม. และจะมีผลเริ่มใช้ในช่วงเดือนมกราคม 2568 ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนเงิน 10,000 บาทให้แก่ผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน 60 ปี โดยเบื้องต้นได้มีคัดกรองผู้ได้สิทธิเสร็จแล้วมีประมาณ 3.2 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่ากรอบวงเงินที่ตั้งไว้ 4 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท โดยขั้นตอนหากผ่านมติ ครม.แล้ว จะมีการประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิผ่านทางแอพฯ ทางรัฐ จากนั้นกำหนดโอนเงินให้ผู้ได้สิทธิไปใช้จ่ายก่อนตรุษจีน ในสิ้นเดือนมกราคา 2568

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ คลังจะเสนอโครงการ อีซี่ อี-รีซีท เข้าครม.สัปดาห์หน้าด้วย โดยเปิดให้ประชาชนสามารถนำวงเงินการใช้จ่าย นำมาลดหย่อนภาษีเงินได้จำนวน 5 หมื่นบาท โดยจะเริ่มใช้จ่ายตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยการใช้จ่ายจะต้องซื้อสินค้าหรือบริการผ่านร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งหากมีการใช้สิทธิลดหย่อนเต็มจำนวน จะได้รับเงินคืนสูงถึงคนละ 1-1.5 หมื่นบาท

นายจุลพันธ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้ปรับรายละเอียดการใช้จ่าย 5 หมื่นบาท ดังนั้น วงเงินแรก 3 หมื่นบาท ต้องเป็นการใช้จ่ายสำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่กำหนด รวมถึงยังขยายสิทธิให้สามารถซื้อแพคเกจทัวร์ โรงแรม ที่พัก รถเช่าได้ด้วยเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และวงเงินส่วนสองอีก 2 หมื่นบาท กำหนดให้ซื้อได้เฉพาะสินค้าและบริการของวิสาหกิจชุมชน โอทอป ที่อยู่ในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือสามารถซื้อสินค้าจากร้านวิสาหกิจชุมชน หรือโอทอปทั้ง 5 หมื่นบาทเลยก็ได้

“ในการใช้จ่ายรอบนี้ยังอนุญาตให้ซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ได้ด้วย แต่ร้านนั้นจะต้องเป็นร้านค้าคนไทย ที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ ส่วนสินค้าต้องห้าม ที่ไม่สามารถซื้อได้ คือ สุรา เบียร์ ยาสูบ น้ำมัน ก๊าซ ค่าใช้จ่ายระบบสาธารณูปโภค รถยนต์ รถจักรยานยนต์ มือถือ อินเตอร์เน็ต เบี้ยประกันภัย และทองคำ เป็นต้น โดยคาดว่า โครงการนี้ จะกระตุ้นการใช้จ่ายได้ถึง 7 หมื่นล้านบาท รัฐบาลสูญเสียรายได้ราว 1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการหรือเข้าสู่ระบบภาษีเพิ่มราว 20% จากปีก่อน” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์กล่าวว่า จากทั้ง 2 มาตรการ เมื่อรวมกับเงินโครงการไร่ละพันที่จ่ายให้ชาวนาครบถ้วนแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเป็นแรงส่งกระตุ้นกำลังบริโภคช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยเศรษฐกิจไทยจะมีเม็ดเงินราว 1.4 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลใส่เข้าไปหมุนเวียนในระบบ ซึ่งจะทำให้จีดีพีปี 68 ขยายตัวได้มากกว่า 3% ที่สำคัญ ทั้ง 3 โครงการเป็นการกระจายการดูแลความช่วยเหลือได้ครบทุกกลุ่ม



รับชมทางยูทูบที่ :   https://youtu.be/vmG8OpiZpYU

คุณอาจสนใจ