เศรษฐกิจ

หุ้นไทยขึ้นแรง! 23.36 จุด สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ชี้ผลพวง กองทุนวายุภักษ์-แถลงนโยบายรัฐบาล

โดย petchpawee_k

7 ก.ย. 2567

53 views

วานนี้ 6 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์และดัชนีหลักทรัพย์ (หุ้น) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,404.28 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,427.64 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 23.36 จุด หรือบวก 1.66% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,431.24 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,412.76 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 107,404.36 ล้านบาท ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มูลค่าซื้อขายหุ้นไทยปรับขึ้นมายืนเหนือ 1 แสนล้านบาท ในรอบ 1 ปี 7 เดือน นับจากวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเคยสูงถึง 114,246.34 ล้านบาท


นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัท หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นแกว่งขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อย่างร้อนแรง โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากแผนออกกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ ที่จะเปิดขายรายย่อย วันที่ 16-20 กันยายน และขายนักลงทุนสถาบัน 18-20 กันยายน คาดหวังเม็ดเงิน 1.5 แสนล้านบาท เข้าตลาดช่วงเดือนตุลาคมนี้ รวมทั้งมาตรการแจกเงิน 1.4-1.5 แสนล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะแถลงในวันแถลงนโยบาย 11 กันยายนนี้ ดัชนีจึงยังปรับขึ้นต่อ เพราะปัจจัยโดยรวมยังคงเป็นบวก อาทิ ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ตามความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหัฐ (เฟด) ที่กดให้สกุลเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนต่อเนื่อง และหากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ ของสหรัฐออกมาอ่อนแอ น่าจะกดดันดอลลาร์เพิ่มเติม และดันเงินบาทแข็งค่ามากขึ้นไปอีก


นายรักพงศ์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นในเดือนกันยายนนี้ ประเมินว่ายังเป็นการฟื้นตัวต่อจากครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ตามปัจจัยบวก ทั้งความคาดหวังต่อแนวนโยบายเศรษฐกิจของ ครม.ชุดใหม่ ความชัดเจนของการออกกองทุนวายุภักษ์ รวมทั้งภาพตลาดการเงินโลกที่ยังเป็นบวก จากการที่เฟดเตรียมปรับลดดอกเบี้ย แต่นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในช่วงครึ่งหลังของเดือนกันยายน เพราะจากสถิติในอดีต ตลาดหุ้นสหรัฐ อาจเผชิญแรงขายรับข่าว (sell on fact) หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ยได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมาระหว่างเดือน ว่าจะกระตุ้นให้ความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอย (recession) กลับมาอีกครั้งหรือไม่



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Teu8NQFlFdY

คุณอาจสนใจ

Related News