‘เศรษฐา’ มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ตถูกกฎหมาย ‘ศิริกัญญา’ ห่วงมีปัญหาภายหลัง รัฐบาลเมินคนด้อยค่าแค่เงินยาไส้

นายกฯ พอใจประชาชนตื่นตัวลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตวันแรก 18.3 ล้าน ย้ำมั่นใจโครงการถูกกฎหมาย พร้อมแจงองค์กรอิสระ ด้าน ‘ศิริกัญญา’ ตั้งข้อสังเกตเปิดลงทะเบียนขณะที่ยังไม่มีมติ ครม. หวั่นเจอปัญหาข้อ กม.ภายหลัง - ปลัดคลังแจงหลักการผูกพันงบปี 67 “แจกเงินดิจิทัล” ไปใช้ในปีงบ 68 ไม่ขัดกฎหมาย

เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเลตในแอปพลิเคชั่นทางรัฐ  ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดีว่า ณ เวลา 06.00 น. เช้าวานนี้ มีผู้ลงทะเบียนถึง 18.3 ล้านคน สำหรับวันแรกไม่ถึง 24 ชั่วโมงถือว่าเยอะมาก

ส่วนตัวเลขดังกล่าวจะสะท้อนความต้องการของประชาชน และตัวเลขทางเศรษฐกิจใดบ้างหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ตนเชื่อว่าสามารถบ่งบอกได้หลายอย่าง เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการใหม่ ๆ ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความตื่นตัวและเข้าใจดีขึ้น และแอปพลิเคชั่นก็มีความเสถียรในจุดหนึ่ง แต่แน่นอนว่าในเรื่องของการทุจริตหรือความไม่ถูกต้องเราก็ให้ความสำคัญ

ส่วนจะมีการป้องกันอย่างไรหลังมีกระแสข่าวที่มีออกมาว่ามีการเตรียมแลกเงินดิจิทัลฯ เป็นเงินสดนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราก็มีวิธีการที่จะป้องกัน โดยในเวลา 11.00 น. (2 ส.ค.67) ตนจะไปตรวจเยี่ยมที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยจะไปพบกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และจะหารือในเรื่องดังกล่าว ส่วนแอปพลิเคชั่นปลอมก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงดีอี และตำรวจสอบสวนกลางก็จะช่วยกันดูแลเรื่องนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวขอให้นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ที่ประชาชนหลายคนหวั่นข้อมูลจะรั่วไหล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ามั่นใจครับ ตรงนี้มั่นใจครับ

ส่วนที่งบประมาณผ่านสภาแล้ว แต่จะมีผู้ไปยื่นร้องศาลปกครองจะทำให้โครงการนี้สะดุดหรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า มั่นใจในความสุจริต และมั่นใจในที่มาที่ไปของโครงการนี้ และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องตอบทุกข้อสงสัยขององค์กรอิสระทั้งหลาย

ส่วนไทม์ไลน์จะสะดุดหรือช้าลงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นอะไร และขออย่าไปคาดเดาว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น หากเกิดขึ้นก็ดิวกับมันไป

ด้าน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง การลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ผ่านแอปฯ ทางรัฐ ว่า การลงทะเบียนวันแรก (1 ส.ค.) ผ่านไปได้ด้วยดี ประสบความสำเร็จ แม้อาจจะมีขลุกขลักหรือช้าไปบ้างเล็กน้อย  เนื่องจากคนไปลงทะเบียนพร้อมๆ กัน แต่ในภาพรวมก็ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี และมีคนมาลงทะเบียนค่อนข้างมาก

แต่มีข้อสังเกตว่า การลงทะเบียนวันแรก เป็นการลงทะเบียนโดยที่ตัวเนื้อหาของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่ได้เข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อขอมติ ซึ่งไม่แน่ใจว่าสุดท้าย จะมีปัญหาในเชิงข้อกฎหมายอะไรหรือไม่ เพราะมติคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายที่มีการเห็นชอบในหลักการตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตอนนั้นยังพูดถึงเรื่องแหล่งที่มาของเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอยู่เลย ซึ่งจะต้องรอดูกัน

นางสาวศิริกัญญา ยังระบุว่า นี่ยังเป็นแค่ก้าวแรก เงินที่จะถึงมือประชาชนยังต้องรอไปอีกอย่างน้อย 5 เดือน ดังนั้นรัฐบาลจะต้องจัดการกับความคาดหวังของประชาชนที่ลงทะเบียนแล้ว แต่เงินยังไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่

ในช่วงระหว่างนี้จะต้องตอบคำถามจากประชาชนว่าสรุปแล้วจะได้เงินเมื่อไหร่ และจะได้เงินตามที่รัฐบาลได้ให้ความหวังไว้หรือไม่ การรอคอยก็ค่อนข้างที่จะยาวนานเล็กน้อย หรือถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ระบบชำระเงินไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในธันวาคมปีนี้ และจะต้องหลุดไปถึงปีหน้า ก็จะทำให้ความคาดหวังของประชาชนสูงขึ้น อาจจะทำให้เกิดเป็นความผิดหวังขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจและให้ความชัดเจนในเรื่องต่างๆ

ส่วนคดีทางการเมืองในสองสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะกระทบต่อการดำเนินโครงการบ้างหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ตรงนี้คงไม่ถึงขั้นทำให้โครงการต้องหยุดลง แต่อาจจะมีสะดุดไปบ้าง หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เช่น มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี แต่ท้ายที่สุดก็คงกลับมาเดินหน้าต่อได้

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การผูกพันงบปี 67 เพื่อไปใช้ในปีงบ 68 ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อเริ่มใช้จ่ายได้ในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อกฎหมายงบประมาณ ซึ่งวิธีดำเนินการจะเป็นรูปแบบ โดยตามขั้นตอนวันนี้ ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่สามารถผูกพันโครงการได้ แต่จะต้องไปตรวจสอบ ยืนยันว่าประชาชนผ่านเกณฑ์ได้เข้าร่วมโครงการ จึงจะสามารถผูกพันได้ เนื่องจากประชาชนได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทแล้ว และประชาชนก็จะไปเริ่มใช้จ่ายในช่วงเดือน ธ.ค. 67 ซึ่งกฎหมายและกฤษฎีกา ดูรายละเอียดแล้วว่าสามารถทำได้

ขณะที่ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสตอบรับจากการลงทะเบียนรับสิทธิเงินดิจิทัลจนถึงเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ส.ค. จำนวน 20.1 ล้านคน ว่า ยืนยันว่าประชาชนมีกระแสตอบรับที่ดีต่อโครงการ ตามที่รัฐบาลตั้งใจพยายามทำให้สำเร็จ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า อย่าเพิ่งลงทะเบียนรับสิทธิ และอาจมีการนำข้อมูลลับส่วนบุคคลไปใช้นั้น ก็ขอให้มองในมุมกว้าง ว่ารัฐบาลตั้งใจดำเนินโครงการนี้เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และนำทางประเทศไทยไปสู่ง E-Government แอปฯ ทางรัฐ จะเป็นทางลัดที่นำประชาชนให้เข้าถึงบริการของรัฐบาล นำทางสู่สังคมดิจิทัล

ยืนยันถึงความปลอดภัยของแอปฯ ทางรัฐ ที่สามารถรองรับผู้เข้าใช้งานจำนวนมาก ไม่ล่ม แม้ในช่วงพีคช่วงชั่วโมงแรก ในเวลา 08.00-09.00 น. วันที่ 1 ส.ค. มีประชาชน 2.3 ล้านคนได้สมัครรับสิทธิ และแอปฯ ทางรัฐมีระบบยืนยันตัวตนสูงสุดตามกฎหมาย

“กระแสที่มีผู้ด้อยค่าว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเพียงเงินยาไส้รัฐบาล ไม่ขอให้ความสำคัญต่อคำพูดนี้ เพราะคำว่าเงินยาไส้เป็นการดูถูกประชาชน และเงินดิจิทัลไม่ใช่เงินเยียวยา แต่เป็นเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินหมื่นสำหรับคนบางกลุ่ม เรียกว่าเงินยาไส้ แต่สำหรับประชาชนที่รัฐบาลเข้าถึงและได้สัมผัส ให้การช่วยเหลือตลอดมา เงินหมื่นเป็นโอกาส ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของทั้งครอบครัวได้”

https://youtu.be/MK5c9_Ewqns