เศรษฐกิจ

ตลาดหลักทรัพย์ แจงหุ้นไทยร่วง ตามตลาดอื่นทั่วโลก

โดย passamon_a

21 เม.ย. 2567

91 views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567 ดัชนีหุ้นปรับลง 28.94 จุด หรือลดลง 2.13% จากวานนี้ มาอยู่ที่ระดับ 1,332.08 จุด ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียและตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะบานปลาย หลังจากอิสราเอลได้โต้ตอบอิหร่าน ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ราคาทองคำและน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น


ตลาดหลักทรัพย์ไทย ปรับตัวลงตามตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ เนื่องจากความขัดแย้งรอบนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดทำการ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในภูมิภาครับทราบข่าวไปแล้ว ดังนั้นเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดซื้อขายหลังวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ จึงรับรู้ข่าวและปรับลดลงในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ประกอบกับยังมีปัจจัยอื่น ที่ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยปรับตัวลดลง อาทิ การกำหนดวันจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ เป็นต้น


ผลกระทบทางตรงต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีไม่มาก โดยจากฐานข้อมูลการลงทุนและรายได้จากต่างประเทศ ของฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่รวบรวมจากแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีและรายงานประจำปี (56-1 One Report) และจากหมายเหตุประกอบงบการเงิน ประจำปี 2565 พบว่า มีเพียงบริษัทเดียวที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่ามีบริษัทย่อยในอิสราเอลและบริษัทย่อยแห่งนี้มีรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.26% ของรายได้จากต่างประเทศ รวมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่การเปิดเผยข้อมูลในปี 2565


จากฐานข้อมูลการถือครองหุ้นรายสัญชาติชุดล่าสุด ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2566 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า นักลงทุนอิสราเอลและนักลงทุนอิหร่านมีมูลค่าการถือครองหุ้นรวมกันในตลาดหุ้นไทยเพียง 141 ล้านบาท (อิสราเอล 117 ล้านบาท และอิหร่าน 24 ล้านบาท) ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง (Exposure) กับทั้ง 2 ประเทศนี้ค่อนข้างต่ำ สอดคล้องกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่คาดว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไม่มากนักหากไม่ขยายวงกว้าง


ผลกระทบทางอ้อมต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย อาจเกิดขึ้นจากความยืดเยื้อของความขัดแย้งระหว่างสองประเทศที่ส่งผ่านห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) อาทิ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมัน ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงราคาวัตถุดิบ ต้นทุนการขนส่ง เป็นต้น และความผันผวนในตลาดหุ้นไทยจากความกังวลของนักลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ วิเคราะห์รอบด้าน และใช้วิจารณญาณในการพิจารณาซื้อขายให้เหมาะสมกับสถานการณ์


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/zWkE5XuSc-U


คุณอาจสนใจ