เศรษฐกิจ

สหภาพฯ ธ.ก.ส.ส่ง สคร.-กฤษฎีกา ตีความรัฐกู้ 1.7 แสนล้าน แจกเงินหมื่น ด้าน ‘สมชัย’ เตือนถ้ายืมจองศาลาได้เลย

โดย nicharee_m

14 เม.ย. 2567

69 views

สหภาพฯ ธ.ก.ส. ออกแถลงการณ์ ส่งเรื่องให้ สคร. , แบงก์ชาติ และกฤษฎีกา ช่วยตีความรัฐบาลสามารถกู้เงิน ธ.ก.ส. เพื่อไปดำเนินโครงการ Digital wallet จำนวน 1.732 แสนล้านบาทได้หรือไม่ ด้าน ‘สมชัย’ เตือนนายกฯ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท กู้ ธ.ก.ส. เข้า ICU แต่ถ้ายืมจองศาลาได้เลย

วานนี้ (13 เม.ย.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ สร.ธกส. ออกแถลงการณ์ ถึงการใช้เงินกู้จาก ธ.ก.ส. เพื่อดำเนินโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ทันทีที่มีการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับที่มาของแหล่งเงินที่จะนำมาใช้กับนโยบาย Digital wallet ของรัฐบาล ส่วนหนึ่งจะขอกู้จากสภาพคล่องส่วนเกินของ ธ.ก.ส. จำนวน 1.732 แสนล้านบาท

ก็เกิดคำถามว่า “การขอกู้เงินดังกล่าวของรัฐบาล ตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พ.ศ.2519 สามารถกระทำได้หรือไม่

สถานการณ์ในอดีต กรณีวิกฤติจำนำข้าวเมื่อปี 2557 ซึ่งตอนนั้นเป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถมีมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับทางการเงินได้ ดังนั้น จึงมีความพยายามจากฝ่ายการเมือง กดให้บอร์ดธ.ก.ส. อนุมัติเงินจำนวน 50,000 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ถือใบประทวนมาจำนำกับ ธ.ก.ส.

ดังนั้น สหภาพแรงงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (สร.ธกส.) ในขณะนั้นจึงมีความชอบธรรมในการคัดค้านการนำสภาพคล่องส่วนเกินไปใช้ในโครงการโดยไม่มีมติคณะรัฐมนตรีรองรับ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าผู้ฝากเงิน

ส่วนรัฐบาลในปัจจุบัน เป็นรัฐบาลอยู่ในอำนาจเต็ม ดังนั้น จึงได้มีการประชุมคณะกรรมการ สร.ธกส. รอบพิเศษ วันที่ 11 เม.ย. 2567 เพื่อพิจารณาว่ารัฐบาลสามารถกู้เงิน ธ.ก.ส.เพื่อไปดำเนินโครงการ Digital wallet จำนวน 1.732 แสนล้านบาทได้หรือไม่

โดย มติคณะกรรมการ สร.ธกส. ให้ดำเนินการ ดังนี้

1.ส่งเรื่องให้หน่วยงานกำกับดูแล ธ.ก.ส. ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาว่า รัฐบาลสามารถกู้เงิน ธ.ก.ส. ไปดำเนินการโครงการ Digital wallet ได้หรือไม่

2.ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาข้อกฎหมายว่า รัฐบาลสามารถกู้เงิน ธ.ก.ส.ไปดำเนินการโครงการ Digital wallet ได้หรือไม่

3.ให้ธนาคาร เร่งสื่อสารทำความเข้าใจ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ว่าในปัจจุบัน ธ.ก.ส.ยังไม่มีการดำเนินการใดๆกับรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Digital wallet เนื่องจากอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้ความเห็นจากส่วนงานกำกับดูแลตามข้อ 1 และ 2

ทั้งนี้ สร.ธกส. ยืนยันว่าการดำเนินการใดๆ ของ ธ.ก.ส.เกี่ยวกับโครงการ Digital wallet จะต้องถูกต้องตามกฎหมาย รักษาผลประโยชน์ขององค์กร และ สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าผู้ฝากเงินกับ ธ.ก.ส.สมกับคำขวัญของธนาคาร “เคียงคู่ รู้ค่า ประชาชน”

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีรัฐบาลแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตว่า “กู้ ธกส.นั้น ICU. แต่ถ้ายืมจองศาลาได้เลย

สิ่งที่รัฐบาลเศรษฐา จะดำเนินการกับแหล่งที่มาของเงินดิจิทัลวอลเล็ต 172,300 ล้านบาท คงไม่ใช่แค่กู้แล้วใช้คืนพร้อมดอกเบี้ย แต่อาจไปไกลถึงขั้นยืมและทยอยคืนในโอกาสที่เหมาะสมโดยไม่มีดอกเบี้ย

จับจากน้ำเสียงของ รมช.คลัง ที่พูดว่าเป็นการยืม จับจากคำตอบของปลัดกระทรวงคลังที่ไม่ตอบเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าดอกเบี้ยเท่าไร ใช้คืนเมื่อใด

แค่กู้ก็เหนื่อยแล้ว เพราะผิดวัตถุประสงค์ของ ธกส. แต่หากถึงขั้น “ยืม” ใช้คืนแบบไม่มีดอกเบี้ย นั้นจองศาลาวัดได้เลย

เพราะ มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ เขียนไว้ชัดว่า “โดยรัฐบาลรับภาระจะชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินการนั้น“

เอาเงินออกไปใช้ย่อมสูญเสียโอกาสให้กู้ โดยอัตราดอกเบี้ยธนาคารทั่วไป อยู่ที่ร้อยละ 7.05-7.25 ต่อปี ส่วนของ ธกส. อยู่ที่ร้อยละ 6.975 ต่อปี เงินกู้ 172,300 ล้าน จึงมีดอกเบี้ยประมาณ 12,000 ล้านบาทต่อปี

เอาไปแจกประชาชน แล้วค่อยส่งคืนเมื่อตั้งงบประมาณได้ ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีกำหนดเวลาคืน ผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังชัดเจน คนยืมคือ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ และคนให้ยืมคือบอร์ดและผู้บริหาร ธกส. จองวัดได้เลย

อยากให้ ครม.มีมติเร็วๆ เลยครับ ประชาชนรอไม่ได้”



https://youtu.be/9DnN-mxRwrs

คุณอาจสนใจ

Related News