เศรษฐกิจ

ก๊าซหุงต้มขึ้นราคา ทำ 'เตาอั้งโล่' ที่ จ.ตรัง ขายดี ผลิตแทบไม่ทัน

โดย weerawit_c

2 เม.ย. 2565

281 views

จากการที่กระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า วันที่ 1 เม.ย.65 เป็นวันแรกที่กระทรวงพลังงานปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) โดยปรับขึ้นตลอด 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.65) รวม 3 บาทต่อ กก. ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มขยับจาก 318 บาทต่อถัง 15 กก. เป็น 333 บาทต่อถัง 15 กก.ในเดือน เม.ย. ปรับราคาครั้งที่ 2 เดือน พ.ค. ราคาอยู่ที่ 348 บาทต่อถัง 15 กก. และปรับครั้งที่ 3 เดือน มิ.ย. ราคาอยู่ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กก.



วานนี้ (วันที่ 1 เม.ย.) จากสถานการณ์ก๊าซหุงต้มที่ปรับราคาสูงขึ้น ยิ่งทำให้ประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อน ในยุคที่เศรษฐกิจย่ำแย่ และข้าวของแพงทุกหย่อมหญ้านั้น ที่โรงผลิตเตาอั้งโล่ควนธานี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง พบว่า ขณะนี้คนงานกำลังเร่งมือผลิตเตาอั้งโล่ เพื่อจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าในต่างจังหวัดที่มีออเดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก



เนื่องจากเตาอั้งโล่ ถือเป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน และผู้คนต่างเชื่อกันว่าการหุงหาอาหารด้วยเตาถ่าน จะได้รสชาติที่อร่อยกว่าการใช้เตาแก๊ส ประกอบกับการที่ก๊าซหุงต้มปรับราคาสูงขึ้น จึงทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งหวลกลับมาใช้เตาอั้งโล่



โดยนางสาวสิรินยา ล้วนดี เจ้าของเตาอั้งโล่ควนธานี บอกว่า นับตั้งแต่สถานการณ์โควิด 19 ธุรกิจของตนเองไม่ได้รับผลกระทบเลย แต่กลับมีแนวโน้มดีขึ้น และมีการผลิตไม่ทันด้วยซ้ำ จากที่ต้องไปส่งให้ลูกค้าถึงบ้าน กลับมีลูกค้าเข้ามารับสินค้าเองถึงโรงงาน ยิ่งแก๊สหุงต้มมีการปรับขึ้นราคา ยิ่งทำให้เตาอั้งโล่ขายดี มียอดการสั่งซื้อเพิ่ม เฉลี่ยต่อเดือนที่ผลิตได้ประมาณ 3,500 ลูก ทั้งเตาอั้งโล่ขาว ขนาดเบอร์ 1-5 ซึ่งนิยมใช้กันในครัวเรือน และเตาอั้งโล่ดำ ขนาดเบอร์ 1-4 และ 0 กับ 9 ซึ่งแบ่งไปตามลักษณะการใช้งาน เหมาะกับแม่ค้าพ่อค้านำไปทำกับข้าวขาย โดยเตาอั้งโล่เหล่านี้ มีราคาเฉลี่ยตั้งแต่ลูกละ 100 บาท ไปจนถึง 300 บาท



สำหรับวัสดุในการผลิตเตาอั้งโล่ จะใช้ดินเหนียวเป็นหลัก ซึ่งมีการปรับราคาจากเดิมขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน และยังต้องปรับค่าแรงให้คนทำงานเพิ่มตามออเดอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่วนตลาดเน้นส่งลูกค้าขาประจำในต่างจังหวัด เช่น กระบี่ สุราษฎร์ฯ พัทลุง สงขลา และภูเก็ต เท่านั้น



เนื่องจากตอนนี้โรงงานผลิตสินค้าไม่ทัน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้ารายใหม่ ประกอบกับตนเองมีประสบการณ์ผลิตเตาอั้งโล่มานานกว่า 10 ปีแล้ว รวมทั้งมีช่างที่มีฝีมือ จึงทำให้เตาอั้งโล่ที่ออกมามีคุณภาพดี จนเป็นที่ต้องการของตลาด คาดว่าในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เนื่องจากทีมคนปั้นมีอายุเยอะแล้ว


คุณอาจสนใจ

Related News