การบินไทย ยันไร้แรงกดดันซื้อเครื่องบินโบอิ้ง ชี้อยู่ในแผนฟื้นฟูอยู่แล้ว

หนึ่งในเงื่อนไขการดีลภาษีสหรัฐที่ถูกพูดถึง คือ ให้สายการบินไทยซื้อเครื่องบินโบอิ้ง ล่าสุด การบินไทย ได้ออกมาระบุว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการอยู่แล้ว และได้ตกลงราคาซื้อขายแล้ว 45 ลำ ตั้งแต่ปี 66 ลำแลกจะเข้าประการในฝูงบินในปี 71 ส่วนการสั่งซื้อในล๊อตต่อไป แม้รัฐบาลจะมีดีลการค้ากับสหรัฐฯ ที่ระบุไว้ว่า ไทยต้องนำเข้าเครื่องบินโบอิ้ง แต่การตัดสินใจซื้อเครื่องบินสุดท้ายแล้ว จะขึ้นอยู่กับบริษัท ไม่มีแรงกดดันทางการเมืองใด ๆ



โดยนายลวรณ กล่าวถึงแผนการจัดหาเครื่องบินว่า ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ช่วงการฟื้นฟูแล้ว แยกออกจากข้อเจรจาภาษีสหรัฐ เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการตกลงราคาซื้อขายไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 โดยเป็นเครื่องบินแบบโบอิ้ง 45 ลำ และในระยะถัดไป จะมีการจัดหาอีก 35 ลำ ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องบินแบบโบอิ้ง คาดจะส่งมอบเครื่องบินช่วงต้นปี 2571 ส่วนเงื่อนไขการเจรจาภาษีสหรัฐที่ทีมไทยแลนด์ให้รายละเอียดไว้ว่า จะมีการซื้อเครื่องบินจากสหรัฐเพิ่ม 80 – 90 ลำนั้น การบินไทยได้ซื้อเครื่องบินไปแล้ว 45 ลำ ส่วนอีก 35 ลำ เป็น Options ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของการบินไทยว่า จะตัดสินใจเลือกจำนวนเท่าใด และเป็นเครื่องบินแบบไหน พร้อมยืนยันว่า ไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง และต่อให้มีการซื้อจริงก็ต้องดูในหลายองค์ประกอบด้วย อาทิ ขนาดเครื่องบิน ประเภทเครื่องบิน ระยะเวลาในการส่งมอบ มีความสำคัญร่วมกันทั้งหมด



สอดคล้องกับนายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการบินไทย กล่าวตรงกันว่า แผนการซื้อเครื่องบินใหม่ 45 ลำนั้น เป็นการตัดสินใจก่อนหน้าจะมีเรื่องภาษีสหรัฐเกิดขึ้น ดำเนินการตั้งแต่ช่วงจัดทำแผนฟื้นฟู ย้ำว่าการซื้อเครื่องบินเพิ่มของการบินไทยไม่มีแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองแน่นอน และถึงแม้รัฐบาลจะมีดีลการค้ากับสหรัฐฯ ที่ระบุไว้ว่า ไทยต้องนำเข้าเครื่องบินโบอิ้ง แต่การตัดสินใจซื้อเครื่องบินสุดท้ายแล้ว จะขึ้นอยู่กับบริษัท ไม่มีแรงกดดันทางการเมืองใด ๆ เพราะโดยปกติแล้วการนำเข้าเครื่องบินของบริษัท ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ซึ่งทำให้ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าจากบริษัท แอร์บัส หรือ โบอิ้ง ดังนั้นข้อเสนอทางภาษีที่เกิดขึ้น จึงไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้ผลิตเครื่องบินของบริษัท การตัดสินใจทั้งหมด ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความต้องการทางธุรกิจและประโยชน์สูงสุดขององค์กรเป็นสำคัญ



และสำหรับแผนการขยายฝูงบินในระยะยาว การบินไทยตั้งเป้าหมายจะมีเครื่องบินประจำการ รวมทั้งสิ้น 150 ลำ ภายในปี พ.ศ. 2576 โดยสัดส่วนฝูงบินในอนาคต จะประกอบด้วยเครื่องบินจากโบอิ้ง ประมาณ 60% หรือ 90 ลำ และแอร์บัส 40% หรือ 60 ลำ



และวันนี้ การบินไทย ได้กลับเข้าซื้อ-ขายในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง หลังฟื้นฟูกิจการสำเร็จ เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งถึง 134.4% จากราคา IPO 4.48 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเกือบ 3 แสนล้านบาท และเป็นอีกปัจจัย หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยบวกได้ในวันนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lCWEZie2c_Q