เศรษฐกิจ
"พิชัย" แย้ม 3 แนวทาง เจรจาภาษีสหรัฐฯ เปิดตลาด "ปลานิล-ลำไย"
14 ก.ค. 2568
79 views
คืบหน้าการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ล่าสุด วันนี้ (14) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คุณพิชัย ชุณหวชิร ได้หารือภาคเอกชน ตรวจการบ้านแผนรับมือผลกระทบ พร้อมแย้มข้อเสนอเพิ่มเติมที่ส่งให้สหรัฐฯ เพิ่มการเปิดตลาดสินค้า 0% เพิ่มในบางรายการ ที่สหรัฐฯ ร้องขอ เช่น ปลานิล ลำไย และรถยนต์พวงมาลัยซ้าย มั่นใจไม่กระทบตลาดในประเทศ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเจรจาภาษีกับสหรัฐนั้น ใช้เวลาในการเจรจามามากกว่า 100 วันแล้ว และจะครบเส้นตายอีกครั้งในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งก็ยังมีความไม่ชัดเจน ยังไม่มีความแน่นอน และยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร และล่าสุดไทยได้เสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมให้สหรัฐฯ บนหลักการที่ทีมเจรจายึดอยู่ 3 แนวทาง คือ (1.) ไทยเราต้องเปิดตลาดให้กว้างขึ้น ในสินค้าที่สหรัฐอยากขายและเราอยากซื้อ แต่ต้องไม่กระทบกับการทำ FTA ของประเทศต่างๆ ที่ทำกับไทย โดยการเสนอให้สหรัฐนำสินค้าเข้ามาในระดับ 0% ที่ไทยผลิตไม่ได้ หรือ ของที่ผลิตในไทยแล้วไม่เพียงพอ เพื่อป้องกันภาคการผลิตของไทย โดยเฉพาะในภาคเกษตร >>>ซึ่งข้อเสนอใหม่ ที่ไทยเราส่งไปให้พิจารณา เดิมเราเปิดตลาดให้สหรัฐแล้ว 63-64% >>> ใหม่เพิ่มเป็น 69% โดยมีการเปิดตลาดสินค้าบางอย่างที่เราไม่เคยเปิด เช่น ลำไย ปลานิล ตามที่เขาขอไว้ ส่วนตลาดยานยนต์ เรากำลังคิด เดิมเราผลิตเยอะ ก็จะไม่ได้เปิดให้ แต่ถ้าเราเปิดให้ ก็คิดว่าเขาก็คงเข้ามาไม่ได้ง่าย เช่น รถพวงมาลัยซ้าย เขามีตลาดอื่นทั่วโลก คงไม่ได้เข้ามาขายที่เรามาก
(2.) ส่งเสริมการลงทุนของธุรกิจไทยในสหรัฐมากขึ้น เพราะสหรัฐต้องการส่งออกมากขึ้น และทำฐานผลิตในประเทศสหรัฐให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เช่น การลงทุนเรื่องเกษตรแปรรูป ขณะที่ไทยจะนำเข้าพลังงานมากขึ้น โดยปัจจุบันสหรัฐ มีปริมาณสำรองของพลังงานค่อนข้างมาก ทำให้ราคาพลังงานมีราคาต่ำ เช่น ก๊าซธรรมชาติขายอยู่แค่ 2-3 ดอลล่าร์ต่อล้านBTU ถูกกว่าราคาตลาดที่ 10-11 ดอลล่าร์
และ(3.) การให้ความสำคัญกับการป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้า โดยข้อเสนอของสหรัฐนั้น จะให้มีเพิ่มการใช้วัตถุดิบหรือส่วนประกอบที่มีการผลิตในประเทศไทย หรือ Local content โดยอาจจะเพิ่มจาก 40% ในปัจจุบัน เป็น 60-70% ที่จะใช้ Local content จากประเทศไทย เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (14) นายพิชัย ได้นัดหารือกับภาคเอก เพื่อตรวจการบ้าน ที่ให้โจทย์ภาคเอกไปจัดทำผลกระทบ แยกเป็นรายอุตสาหกรรมและสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเยียวยาผลกระทบ โดยพาะกลุ่ม SMEs และภาคเกษตร เบื้องต้นภาครัฐ ได้เตรียมซอฟท์โลนไว้ประมาณ 2 แสนล้านบาท ผ่านธนาคารพาณิชยฺของรับอย่างธนาคารออมสิน และธกส. คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.01% เพื่อช่วยเหลือทั้งการลงทุน ช่วยการจ้างงาน การบริหารสินค้าคงคลัง และมาตรการอื่นๆ โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้จากระดับปกติที่ดอกเบี้ย 2% ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการเพิ่มเติมจากมาตรการที่วางไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างหารือกับภาคเอกชน คุณพิชัย ได้พูดพูดติดตลกว่า "วันนี้จะเป็นการหารือเพิ่มเติม ผมจะสอบถามความคิดเห็นทุกท่าน ถามทุกคนว่าคิดเห็นอย่างไร เดี๋ยวนึกว่าผมถามคุณทักษิณคนเดียว“
ภาคเอกชนที่เข้าหารือ ประกอบด้วย หอการค้าไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.), สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.), สมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์, ธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP), ศูนย์วิจัยกสิกรไทย และกลุ่มดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/v5QPScP2QCg
แท็กที่เกี่ยวข้อง