เศรษฐกิจ

นานาชาติ ผิดหวัง "ทรัมป์" ประกาศขึ้นภาษีกว่า 100 ประเทศ

โดย panwilai_c

3 เม.ย. 2568

48 views

หลายประเทศออกมาแสดงความผิดหวังกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้ากว่า 100 ประเทศ พร้อมกับเตือนว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและจะทำให้สงครามการค้าขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น



ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่า วันที่ 2 เมษายนคือเมื่อวานนี้ เป็นวันปลดปล่อย และเป็นวันที่เขารอคอยมานาน เพราะจะเป็นวันที่อุตสาหกรรมของอเมริกาฟื้นคืนชีพ เป็นวันที่เราเริ่มทำให้ประเทศอเมริกามั่งคั่งอีกครั้ง เราจะทำให้ประเทศมั่งคั่ง และร่ำรวย โดยเขาจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าที่นำเข้าสหรัฐฯทั้งหมด และกำหนดอัตราภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นกับประเทศอื่นๆ อีกหลายสิบประเทศ รวมถึงคู่ค้ารายใหญ่บางรายของสหรัฐฯด้วย ขณะที่ไทยโดนเรียกเก็บภาษีนำเข้าถึง 36 %



ทันทีที่ทรัมป์ประกาศมาตรการนี้ออกมา จีน ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดชาติหนึ่ง โดยทรัมป์ได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 34% จากเดิมเก็บเพิ่มไปแล้ว 20% ที่มีผลบังคับใช้อยู่แล้ว ส่งผลให้จีนจะต้องเผชิญกับอัตราภาษีสูงถึง 54% ซึ่งในวันนี้กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงขอให้สหรัฐฯยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทันที และเร่งแก้ไขข้อพิพาททางการค้าอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจา พร้อมกับย้ำว่า จีนคัดค้านนโยบายของสหรัฐฯ และจะใช้มาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของจีน



ในส่วนของสหภาพยุโรป นางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเตือนนโยบายของทรัมป์จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกด้วย เธอรู้สึกเสียใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้ของผู้นำสหรัฐฯ เพราะจะเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก และจะกระตุ้นให้เกิดการกีดกันทางการค้าเพิ่มมากขึ้น



นโยบายภาษีศุลกากรครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลกด้วย ประชาชนหลายล้านคนจะต้องใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นในการซื้อของ รวมไปถึงยารักษาโรคและค่าขนส่งจะมีราคาแพงขึ้น เงินเฟ้อจะสูงขึ้น และสิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนที่เปราะบาง



อัวร์ซูลา ยังย้ำด้วยว่า ยุโรปจะร่วมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับมือกับปัญหานี้ และพร้อมเสมอที่จะเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า ขณะเดียวกัน เราก็พร้อมที่จะตอบโต้ด้วยเช่นกันเพื่อปกป้องผลประโยชน์และธุรกิจของเรา หากการเจรจาล้มเหลว



ที่ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba ) บอกรู้สึกผิดหวังมาก หลังจากทรัมป์ประกาศจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าญี่ปุ่นถึง 24 % จริงๆแล้วญี่ปุ่นมีบริษัทมากมายเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ และนับเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯนับตั้งแต่ปี 2562 ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ



ขณะที่นายโยชิมาสะ ฮายาชิ (Yoshimasa Hayashi) เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า มาตรการของทรัมป์จะกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ และท้ายที่สุดก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและระบบการค้าพหุภาคี ทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นขอเรียกร้องให้สหรัฐฯพิจารณาในเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง



-นายโยชิมาสะ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะจัดตั้งแผนกที่ปรึกษาพิเศษขึ้นโดยเร็ว และจะให้การสนับสนุนด้านกระแสเงินสดและความช่วยเหลืออื่นๆ กับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้



ที่เกาหลีใต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานกล่าวว่า เกาหลีใต้รู้สึกผิดหวังที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเกาหลีใต้ในครั้งนี้ และว่า เขากำลังประชุมกับตัวแทนสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อหารือว่า เราจะดำเนินการเจรจากับสหรัฐฯ อย่างไรเพื่อลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันก็ต้องพร้อมรับมือโดยจะหารือกับภาคเอกชนเพื่อวางยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้บริษัทต่างๆได้รับผลกระทบน้อยที่สุด



ทั้งนี้ในระหว่างการแถลงถึงนโยบายขึ้นภาษีสินค้านำเข้าประเทศต่างๆ ทรัมป์ได้กล่าวถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงในเอเชียของสหรัฐฯโดยทรัมป์กล่าวว่า ทั้งสองประเทศนี้เป็นผู้กระทำผิดรายใหญ่ที่สุดจากการดำเนินการทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐฯ



ด้านนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า นโยบายจัดเก็บภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ใช่การกระทำของผู้ที่เป็นมิตรต่อกัน แม้ทรัมป์ไม่ได้ห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากออสเตรเลีย แต่ก็ได้กำหนดอัตราภาษีสินค้านำเข้าของออสเตรเลียทั้งหมด 10 % ทั้งๆที่สินค้าของสหรัฐฯที่นำเข้ามายังออสเตรเลียไม่ต้องเสียภาษี



อย่างไรก็ตามอัลบาเนซียืนยันว่า ออสเตรเลียจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้ทางภาษีต่อสินค้าจากสหรัฐฯ แต่จะระงับข้อพิพาทที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสองประเทศแทน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qq7sVsy00Xo

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ