เอกชนประสานเสียง อยากเห็นรบ.ใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทีมข่าวได้สำรวจความเห็นภาคเอกชนหลายฝ่ายต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่วนใหญ่คลายความกังวลใจหลังจากเห็นทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่จะทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะจะส่งผลกระทบต่อสูญญากาศทางเศรษฐกิจน้อย ขณะเดียวกันประสานเสียงเสนอรัฐบาลเร่งหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนที่สุด เพื่ออัดฉีดเงินเข้าระบบ แทนมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ที่อาจสะดุดกลางคัน



นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอมรับว่า รู้สึกคลายความกังวลใจมากขึ้น หลังจากมีสัญญาณการกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ โดยมองว่า หากมีความชัดเจนเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชน เพราะจะทำให้ระยะสูญญากาศทางเศรษฐกิจน้อยลง ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ออกมายังคงเป็นบุคคลจากแกนนำรัฐบาลชุดเดิม ทำให้คาดการณ์ได้ว่านโยบายเศรษฐกิจหลัก ๆ จะยังคงได้รับการสานต่อ แต่ก็ต้องจับตาผลโหวตนายกรัฐมนตรี และรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อีกครั้ง



อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่ เร่งดำเนินการ ก็คือ ความชัดเจนในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ที่ต้องเติมเงิน เติมออกซิเจนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อต่อลมหายใจ รวมถึงการออกมาตรการดูแลการทุ่มตลาดของทุนต่างชาติที่ขยายวงกว้างมากขึ้น ส่วนมาตรการระยะกลางและระยะยาว ก็ยังเป็นเรื่องเดิมคือการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติที่ต้องทำต่อเนื่อง



เช่นเดียวกับ นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ที่มองว่า การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเศรษฐาฯ ไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมกับเศรษฐกิจไทยมากนัก เพราะที่ผ่านมายังไม่มีมาตรการอะไรที่ออกมาเป็นรูปธรรม



ส่วนรายชื่อนายกรัฐมนตรี ที่มาจากขั้วรัฐบาลเดิม ก็ไม่น่าจะทำให้นโยบายด้านเศรษฐกิจเปลี่ยนไปมากนัก มีเพียงเรื่องความเชื่อมั่นที่ต้องเร่งฟื้น และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจรอบด้านที่อยากให้รัฐบาลเร่งทำ โดยเฉพาะการกู้วิกฤตสภาพคล่องด้วยมาตรการอัดฉีดเงินเข้าระบบอย่างเร่งด่วน ออกมาตรการขยายหนี้ เติมเงินใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการและประชาชน , ส่วนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ มองว่าหากประเทศที่เคยทำการค้ากับไทยจะมีความเข้าใจบริบทการเมืองไทยดีอยู่แล้ว แต่ถ้าจะกระทบก็คือรายใหม่ที่กำลังรอดูความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา



ส่วนกระแสข่าวเรื่องเติมเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อาจไม่ได้ไปต่อ เรื่องนี้ นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย มองว่าอยากให้รัฐบาลใหม่นำเงินงบประมาณส่วนนี้ไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจส่วนอื่น



โดยเสนอให้นำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ และจัดสรรงบไปใช้สร้างงานสร้างอาชีพ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยั่งยืนมากกว่า พร้อมเสนอ 6 ประเด็นสำคัญ ที่ ภาคเอสเอ็มอี อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการ โดยเน้นไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ลดต้นทุนเสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี และ ปกป้องผู้ประกอบการจากทุนต่างชาติ



โดยขณะนี้ทางสมาพันธ์ได้มีการรวบรวมข้อเสนอทั้งหมด เพื่อเตรียมขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pPpOAWnwdeY