เศรษฐกิจ

นายกฯ รับไม่ได้ ขึ้นค่าไฟเป็น 4.68 บาท แต่รับต้องมีขึ้นบ้าง ก้าวไกล สับ 4 เดือนหมดโปรโมชัน

โดย panwilai_c

30 พ.ย. 2566

115 views

นายกฯ ร้องโอ้ย รับไม่ได้ กกพ.มีมติขึ้นค่าไฟเป็น 4.68 บาท ยอมรับ อาจจะต้องปรับขึ้นบ้าง แต่ไม่ถึง 4.68 บาท แน่นอน



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ถึงกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติขึ้นค่าไฟเป็น 4.68 บาท โดยนายกฯ ถึงกับร้องโอ๊ย บอก "4.68 บาท โอ้ย รับไม่ได้หรอกครับสูงเกินไป" ตนในฐานะประธานจะต้องมีการเรียกประชุม ไม่ยอมหรอกครับ



เมื่อถามย้ำว่าการปรับขึ้นดังกล่าวสูงกว่าเพดานที่รัฐบาลเคยตั้งไว้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ก็จะเข้าไปพูดคุยรายละเอียดทั้งหมดในฐานะประธาน กกพ.



เมื่อถามว่าจะเป็นมาตรการต่อเนื่องหรือไม่ สำหรับเรื่องของการลดราคาไฟฟ้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องไปนั่งดูก่อนเพราะเป็นเรื่องของงบประมาณด้วย แต่ขึ้นไปถึง 4.68 บาทคงไม่ไหวเยอะเกินไป



เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามีแนวโน้มที่จะขึ้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีแนวโน้มจะขึ้นจาก 3.99 บาท แต่ไม่ถึง 4.68 บาทแน่นอน



นายกรัฐมนตรี ยัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังลงพื้นที่แล้วมีชาวบ้านทวงถาม โดยยอมรับว่ากดดัน ซึ่งการทำงานก็มีความกดดันทุกวัน ทุกเรื่อง เป็นเรื่องที่กดดัน เป็นเรื่องที่อยากให้พี่น้องประชาชนได้จริง และจากการมารับฟัง ก็เห็นว่าคนต้องการ อยากได้จริงๆ ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ และยังคงเดินหน้าตามไทม์ไลน์เดิม



เมื่อถามว่าหากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาในเชิงลบ จะมีการปรับแผนลดขนาด โดยไม่ต้องกู้ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดี๋ยวคงมีการพูดคุยกัน ซึ่งตอนนี้มุ่งมั่นจะทำเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล จะได้หรือไม่ได้อย่างไรต้องมีคำตอบให้ประชาชน



ด้าน ก้าวไกล สับ "รัฐบาลเศรษฐา" โปรโมชั่นหมด ลดค่าไฟได้ แค่ 4 เดือน ขออย่าเรียกว่าลด จริงๆ แล้วแค่เลื่อนจ่ายหนี้ ทำปีใหม่ พุ่งอีก 69 สตางค์ต่อหน่วย แนะนายกฯ มีเวลาคิด หยุดซื้อพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม อย่าเป็นส่วนต่อขยายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ทำ ปชช.จ่ายแพงบนความร่ำรวยของเจ้าสัวบางคน



นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีการขึ้นค่าไฟในช่วง ต้นปีหน้า เดือนมกราคมถึงเมษายน ที่อาจส่งผลให้ค่าไฟ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 69 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเป็นการขึ้นหลังจากเพิ่งประกาศลดไปว่า ช่วงที่รัฐบาลเข้ามาทำงานก็ประกาศว่าเป็นผลงาน ที่ลดไป 46 สตางค์ต่อหน่วย แต่ความจริงเป็นการเลื่อนการจ่ายหนี้ ที่ค้างชำระ กฟผ. ออกไป จึงถือว่าเป็นโปรโมชั่น ลดได้แค่ 4 เดือน



ทั้งนี้ ต้นตอโครงสร้างที่รัฐบาลยังไม่ได้แก้ไข และมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนต่างๆ จึงกลายเป็นความจริงที่ว่า ประชาชนต้องมาแบกรับค่าไฟเหมือนเดิม โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่เป็นช่วงหน้าร้อน แต่ค่าไฟกลับแพงขึ้น เราจึงไม่เห็นด้วย ที่รัฐบาลจะมองว่า การลดค่าไฟเป็นโปรโมชั่นสั้นๆ แต่ต้นต่อไม่ได้มีการแก้ไขเลย โดยเฉพาะเรื่องนโยบายก๊าซธรรมชาติ



ซึ่งพรรคแกนนำรัฐบาลเองก็เคยหาเสียงเรื่องนี้ไว้ รวมถึงพรรคก้าวไกลเคยเสนอว่า ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย จะมีราคาถูกกว่า ควรนำมาเฉลี่ยเป็นต้นทุน ให้กับโรงไฟฟ้า เพื่อให้ค่าไฟของประชาชนถูกลง แต่ตอนนี้ประชาชน ต้องมาแบกรับต้นทุน ค่านำเข้า ก๊าซ LNG จากต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งนี่คือต้นตอของโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม



นายวรภพ ยังกล่าวถึงปัญหาอีกส่วนนึงว่า โรงไฟฟ้าที่มีกำลังผลิตมากเกิน เกือบ 60% ที่ไม่ได้เดินเครื่อง แต่รัฐบาลไม่ได้ ริเริ่มแก้ไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรมส่วนนี้เลย จึงต้องเสียค่าความพร้อมจ่ายให้กับโรงไฟฟ้าเหล่านี้ ซ้ำรัฐบาลยังสานต่อ การรับซื้อพลังงานไฟฟ้าเพิ่ม ต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้ว ที่ซื้อพลังงานหมุนเวียน 5,200 เมกะวัตต์ แม้จะอ้างว่าเป็นพลังงานหมุนเวียน พอได้มีคำสั่งแต่ศาลปกครองก็ได้มีคำสั่งทุเลาชั่วคราวออกมาแล้ว เพราะกระบวนการรับซื้อไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรม อาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศได้ แต่รัฐบาลกลับไม่มีทีท่าที่จะเปลี่ยนหรือทบทวน และเรื่องนี้ยังไม่มีคำตอบจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง



นายวรภพยังระบุว่าตนได้สอบถามเพิ่มเติม ไปยัง กฟผ. ว่า โครงการจัดซื้อพลังงานดังกล่าว จะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายนนี้ นายกรัฐมนตรีจึงมีเวลาที่จะทบทวนโครงการนี้ เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องเสียค่าไฟแพงบนความร่ำรวยของเจ้าสัวบางคน ไม่ควรสานต่อสิ่งที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำมา จึงอาจเป็นเหมือนส่วนที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลเคยพูดว่า นี่คือส่วนต่อขยายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/u57UU3mU9zM

คุณอาจสนใจ

Related News