นายกฯ สั่งการ 'กิตติรัตน์' เรียก 'ก.ล.ต.-ตลท.-คลัง' หารือภาวะตลาดหุ้นทรุด

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกระทรวงการคลัง ซึ่งก็ไม่มีมาตรการพิเศาอะไรออกมา โดยระบุว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง มาจากฐานสูงในปีก่อน และผลจากการชะลอตัวของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ส่วนเรื่อง Naked Short Selling ยืนยันว่าไม่มี แต่ยอมรับว่า ในสายผู้ลงทุนใช้โปรแกรมเทรด มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยตลาดทุนเตรียมขยับไปสู่มาตรฐานใหม่ในการยกระดับการป้องกัน ทั้งนี้นโยบายต่างๆ รวมทั้งการดึงดูดนักลงทุนเข้ามายังประเทศไทย ทำให้มั่นใจว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ดีกว่าที่หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์ไว้


ขณะที่กระทรวงการคลังจะหารือกับภาคเอกชนด้านตลาดทุนในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์การจัดตั้ง ESG Fund ลักษณะการลงทุนระยะยาวคล้ายกับ LTF แต่จะเข้าลงทุนในหุ้น ESG เชื่อว่าจะช่วยหนุนตลาดทุนในระยะยาว แต่ไม่ใช่การจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกองทุนพยุงหุ้น


วันนี้ (13 พ.ย.) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ทั้งกลุ่มค้าปลีก ธนาคาร และพลังงาน นักลงทุนกังวลมูดี้ส์ประกาศลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เป็น "เชิงลบ" จากเดิม"มีเสถียรภาพ" ถือว่าเป็นประเด็นใหม่ และยังกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีแรงขายหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ที่มีงบไตรมาส 3/66 ออกมาน่าผิดหวัง แม้ว่าจะดีดตัวขึ้นแดนบวกได้ในช่วงบ่าย แต่ก็เป็นช่วงสั้น ก่อนดัชนีจะดิ่งลงแดนลบอีกครั้ง เมื่อผลการประชุมไม่มีมาตรการพิเศษหยุดตลาดหุ้นร่วง


ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากระดับ 1,500 จุด ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล ก่อนจะหลุดระดับ 1,400 จุด และทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ระดับ 1,371.22 จุด แม้ที่ผ่านมามีการออกมาเรียกความเชื่อมั่นของทั้งก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ก็ดูเหมือนผลตอบรับของหุ้นไทยจะเป็นเชิงลบอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/5pPmzXwNvNg