เศรษฐกิจ
รถร่วมฯ บุกพลังงาน ขีดเส้น 7 วัน ลดราคา NGV เหลือ 12.74 บาท/กก.
โดย panwilai_c
2 พ.ย. 2566
67 views
วันนี้ (2 พ.ย. 66) มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะทั้งรถตู้ รถเมล์ และรถมินิบัส นำรถโดยสารมาจอดที่ด้านหน้าอารเอ็นโก้ กระทรวงพลังงาน เพื่อเรียกร้องขอปรับลดราคาก๊าซเอ็นจีวี. จากกิโลกรัมละ 19 บาท เหลือ 12.74 บาทต่อกิโลกรัม หลังได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง
กลุ่มผู้ประกอบการได้ยื่น 4 ข้อเรียกร้องต่อกระทรวงพลังงาน โดยมี นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้รับเรื่อง ก่อนจะนำตัวแทนผู้ประกอบการประมาณ 15 คน เข้าหารือ
นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล เปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องที่ยื่นให้กระทรวงพลังงานพิจารณาทั้ง 4 ข้อ ประกอบด้วย
1. ขอให้กระทรวงพลังงานปรับลดราคาก๊าซเอ็นจีวี.ลง จากปัจจุบันกิโลกรัมละ 19 บาท ให้ลดเหลือ 12.74 บาทต่อกิโลกรัม
2. ขอขยายระยะเวลา ของการใช้บัตรส่วนลดก๊าซเอ็นจีวี. เพิ่มเติมอีก 2 ปี
3. ขอให้ยกเลิกการกำหนดปริมาณการเติมก๊าซเอ็นจีวีที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน
4. ขอให้มีบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงที่ใช้น้ำมันดีเซล ของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ
พร้อมย้ำว่า ที่ผ่านมาต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวีพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในปลายปีนี้ ขณะที่จำนวนผู้โดยสารก็น้อยลง จากหลายปัจจัย รวมถึงผลกระทบมาตรการรัฐ อย่างค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งยังไม่มีมาตรการเข้ามาเยียวยา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องหยุดเดินรถไปมากกว่าครึ่ง
ทั้งนี้หลังจากใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ได้ข้อสรุปว่า ทางกระทรวงพลังงานจะรับข้อเรียกร้องไปพิจารณา ขณะที่ผู้ประกอบการได้ให้เวลากระทรวงพลังงานพิจารณาเป็นเวลา 7 วัน หากไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ก็จะนัดรวมตัวกันอีกครั้งที่หน้ากระทรวงพลังงานอีกครั้งและจะเป็นการยกระดับชุมนุมแบบปักหลักค้างคืน
ล่าสุด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า ได้สั่งตั้งคณะทำงานของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบปัญหาทั้งในส่วนของผู้ประกอบการรถตู้ รถเมล์สาธารณะ สมาคมรถบรรทุก รวมถึงกลุ่มผู้ขับแท็กซี่ และแก้ไขปัญหาพร้อมกันทันที
ขณะเดียวกันวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับลดราคาน้ำมันเบนซินทุกประเภท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ถึง 31 มกราคม 2567 โดย
-แก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร
-เบนซิน 95 และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาทต่อลิตร
-แก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ลดลงประมาณ 80 สตางค์ต่อลิตร
ซึ่งการลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95, แก๊สโซฮอล 95 และแก๊สโซฮอล E20 เป็นการปรับลดลงตามอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน ที่ 0.15 - 1 บาทต่อลิตร ตามสัดส่วนเนื้อน้ำมันเบนซินที่ผสม
สำหรับฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ติดลบ 74,292 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 28,938 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 45,354 ล้านบาท โดยกระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการ เตรียมน้ำมันแต่ละชนิดให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/NbC-N4tpHPc