น้ำมันโลกร่วงกว่า 3 ดอลลาร์ เวิลด์แบงก์เตือน วิกฤตตะวันออกกลางเสี่ยงทำราคาพุ่ง

ราคาน้ำมันโลกร่วงหนักกว่า 3 ดอลลาร์ หลุด 83 ดอลลาร์ตต่อบาเรล แต่ก็มีเสียงเตือนจากเวิลด์แบงก์ วิกฤตในตะวันออกกลาง เสี่ยงทำราคาน้ำมันพุ่งแตะ 157 ดอลล์ต่อบาร์เรล



โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ปิดวันจันทร์ (30ต.ค.) ร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์ หลุดระดับ 83 ดอลล่าร์ต่อบาเรล ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)



โดยน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดวันจันทร์ (30ต.ค.) ร่วงลง 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ร่วง 3.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.45 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด รวมถึงการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะพลิกกกับมาบวก หากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ลุกลามออกนอกภูมิภาค และทำให้อิหร่านเข้าร่วมในความขัดแย้ง



โดยธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ออกมาเตือน โดยระบุในรายงานล่าสุด ประเมินผลกระทบออกเป็น 3 ฉากทัศน์ โดยระบุว่า หากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกหายไปประมาณ 500,000 บาร์เรล-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแตะระดับ 93-102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ส่วนฉากทัศน์ที่ 2 นั้น สถานการณ์ลุกลามเป็นวงกว้าง ทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกหายไปประมาณ 3-5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงถึง 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



และฉากทัศน์ที่ 3 ซึ่งถือเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด สถานการณ์รุนแรงจนส่งผลให้น้ำมันในตลาดโลกหายไปเป็นจำนวนมากถึง 6-8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นผลกระทบที่รุนแรงเทียบเท่ากับเมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์คว่ำบาตรน้ำมันของชาติอาหรับในปี 1973 สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับ 157 ดอลลาร์/บาร์เรล

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ZnSF70G-D-8