สนพ.จับตาคนใช้ไฟพุ่ง หลังสงกรานต์

อากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้เผยผลทดสอบการใช้ไฟ พบว่า อุณหภูมิภายนอกบ้านที่สูงขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้แอร์ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นถึง 3%

โดยเครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ จะทำงานหนักในฤดูร้อน มากกว่าฤดูอื่น ๆ แม้เปิดใช้งานเท่ากัน และตั้งค่าแบบเดียวกัน โดยอุณหภูมิภายนอกบ้านที่สูงขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้แอร์ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างน้อย 3% ถ้าคำนวณจากอัตราค่าไฟในปัจจุบันที่ 4.72 บาทต่อหน่วย เครื่องปรับอากาศติดผนังแบบ Fixed Speed ขนาด 9,000-22,000 บีทียู จะใช้ไฟ 0.64 - 1.54 หน่วยต่อชั่วโมง คิดเป็นค่าไฟที่ต้องเสีย 3.05 ถึง 7.35 บาทต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ถ้าเป็นพัดลมตั้งพื้นขนาดใบพัด 12-18 นิ้ว จะใช้ไฟ 0.04-0.06 หน่วย คิดเป็นค่าไฟ 0.19 ถึง 0.29 บาทต่อชั่วโมง

ขณะที่นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. จับตาการใช้ไฟหลังสงกรานต์ โดยคาดว่าหน้าร้อนในปี้นี้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ในระบบ 3 การไฟฟ้า จะสูงถึง 34,000 เมกะวัตต์ มากกว่าช่วงพีคของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 33,177 เมกะวัตต์ ประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด บวกกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ ทำให้ความต้องการใช้ไฟเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในช่วงหลังสงกรานต์ ที่ห้างร้าน และธุรกิจกลับมาเปิดทำงานปกติ จะทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าปริมาณไฟฟ้าสำรองเพียงพอ รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศได้ โดยปัจจุบันมีปริมาณสำรองการผลิตไฟฟ้าในระบบกว่า 30% จากปกติที่ต้องมีประมาณ 15% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าตก หรือ ดับอย่างแน่นอน

สนพ. ยังเปิดเผยถึงแนวโน้มค่าค่าไฟในช่วงหลังจากนี้ หรือ ในรอบเดือนกันยายน ถึง ธันวาคม 2566 จะปรับลดลงอีก เนื่องจากกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย มีปริมาณเพิ่มขึ้น จาก 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต เป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนธันวาคม ขณะที่ราคา LNG ในตลาดโลกก็ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลง และจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้าให้ถูกลงด้วย

https://youtu.be/9YoUZjEumC4