กกพ.เคาะ 3 แนวทาง เตรียมพิจารณาเรียกเก็บค่าไฟฟ้ารอบใหม่

เคาะออกมาแล้ว สำหรับสูตรการปรับค่าไฟที่จะเรียกเก็บในรอบเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมนี้ มี 3 แนวทาง อัตราเดียวกันทั้งครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม



สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้ารอบใหม่ เดือน พ.ค.-ส.ค. นี้ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาค่าไฟในรอบดังกล่าว โดยมี 3 แนวทาง ประกอบด้วย



แนวทางแรก เรียกเก็บค่าเอฟทีงวดดังกล่าว 293.60 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นเป็น 6.72 บาทต่อหน่วย ซึ่งแนวทางนี้จะสามารถจ่ายคืนหนี้ กฟผ. ตั้งแต่เดือน ก.ย. 64 ถึง ธ.ค.65 จำนวน 150,268 ล้านบาทได้ภายในงวดเดียว ซึ่งแนวทางนี้เป็นการคำนวณตามสูตรค่าเอฟที ปกติ



ส่วนแนวทางที่ 2 เรียกเก็บค่าเอฟที 105.25 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้นเป็น 4.84 บาทต่อหน่วย และจะสามารถจ่ายคืนภาระหนี้ กฟผ.ได้ภายใน 5 งวด หรือภายใน ธ.ค. 67 ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ กฟผ.เสนอ



และแนวทางที่ 3 เรียกเก็บค่าเอฟที 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.77 บาทต่อหน่วย แต่จะสามารถจ่ายคืนหนี้ กฟผ.ได้ภายใน 6 งวด หรือภายใน เม.ย. 2568



อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 แนวทางนี้ ยังไม่มีแนวทางใด ที่สอดคล้องกับ มติ กพช. ที่ระบุการปรับค่าไฟไม่ควรเกิน 4.72 บาทต่อหน่วย และหากประชาชนมีความเห็นอื่นที่นอกเหนือจาก 3 แนวทางดังกล่าว กกพ. ก็เปิดกว้างรับฟังแต่ควรเป็นการแสดงความเห็น พร้อมเหตุผล เนื่องจาก กกพ. จะรวบรวมความเห็นเข้าที่ประชุมบอร์ด ในวันที่ 22 มีนาคมนี้อีกครั้ง



สำหรับแนวทางทั้งหมดเป็นการเสนอทางเลือกให้ประชาชน เนื่องจากต้นทุนผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลง ทั้งราคาก๊าซแอลเอ็นจีที่ถูกลง ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่แกว่งตัวในระดับต่ำ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การจ่ายคืนภาระหนี้ให้ กฟผ. เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนี้สาธารณะยาวนานจนเกินไป และเพื่อเตรียมรับมือกับราคาพลังงานโลกที่อาจปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในรอบเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2566 ทางเว็บไซสำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 10 - 20 มีนาคม 2566 นี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7PIe79bpiuk