ธุรกิจเรือนำเที่ยวโอด ราคาน้ำมันพุ่งสวนทางรายได้ จี้รัฐเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

ราคาน้ำมันที่พุ่งสุง กระทบธุรกิจเรือนำเที่ยวในภูเก็ต-กระบี่หนัก ต้นทุนพุ่ง สวนทางกับรายได้ จี้รัฐ เปิดประเทศเต็มรูปแบบ เพื่อให้มีรายได้รับมือกับราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้



ทีมข่าวลงพื้นที่คุยกับผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวในจังหวัดกระบี่ และภูเก็ต พบว่า เจ้าของเรือนำเที่ยว ทั้งรายใหญ่-รายเล็ก กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก จากราคาน้ำมันดีเซลที่พุ่งสูง ทำให้ต้นทุนการเดินเรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว



นายอำนวย มีบุญมาก หนึ่งในเรือหางยาวนำเที่ยวหมู่เกาะพีพี กล่าวว่า ปกติแล้ว จะซื้อน้ำมันดีเซลจากสหกรณ์เรือหางยาวเกาะพีพี. ซึ่งราคาจะสูงกว่าราคาตลาด 8 บาทต่อลิตร เพราะมีค่าขนส่งบวกเพิ่มเข้ามา



ซึ่งวันนี้ราคาน้ำมันดีเซลบี 7 ลิตรละ 32 บาท เรือหางยาวจะต้องซื้อในราคาลิตรละ 40 บาท ใน 1 วัน จะใช้น้ำมันประมาณ 10 ลิตร หรือ คิดเป็นค่าใช้จ่าย 400 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับรายได้ ที่เฉลี่ยวันละ 1,000 บาท ซึ่งดูเหมือนจะเยอะ แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากแล้ว ก็แทบจะไม่เหลือ จะขึ้นค่าบริการก็ไม่ได้ เพราะห่วงว่าจะกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว จะกระทบหนักเข้าไปอีก



ขณะที่ นายต่อพงษ์ วงศ์เสถียรชัย เจ้าของบริษัท เลิฟ อันดามัน ผู้ให้บริการเรือนำเที่ยวรายใหญ่ กล่าวว่า ในช่วงโควิดปีแรก ซื้อน้ำมันได้ในราคาพิเศษ ตกลิตรละ 18 บาทเท่านั้น แต่วันนี้ขยับขึ้นมาเป็น 40 บาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว ขณะที่รายได้ยังเท่าเดิม เพราะนักท่องเที่ยวยังกลับมายังไม่ถึง 40%



อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากราคาในตลาดโลก แต่สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจผ่านวิกฤตไปได้ คือ ขอให้รัฐเร่งปลดล็อคไทยแลนด์พาส เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพียงพอรับมือกับราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zxRhDtm0DhM