เตือนค้าขายกับรัสเซียเสี่ยงได้เงินล่าช้า ล่าสุดขึ้นดอกเบี้ยเป็น 20% สกัดรูเบิลร่วงหนัก

นักลงทุนกลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีปูติน สั่งกองกำลังด้านอาวุธนิวเคลียร์เตรียมพร้อม ส่งผลราคาน้ำมัน และราคาทองทะยานขึ้นอีกครั้งในวันนี้

เช้าวันนี้ (28 ก.พ.) ในตลาดเอเชีย ราคาทองคำเปิดพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,928.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาในบ้านเรา ปรับขึ้นทันที 400 บาท ส่งผลราคาทองรูปพรรณ กลับไปยืนเหนือระดับ 30,000 บาทอีกครั้ง โดยราคาขายออกอยู่ที่บาทละ 30,050 บาท ส่วนทองคำแท่งขายออกบาทละ 29,550 บาท นักวิเคราะห์มองว่า ราคาทองจะยังทรงตัวระดับสูง เนื่องจากนักลงทุนยังถือสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ก็ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นด้วย


ด้านราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส ทะยานขึ้น 4.95 ดอลล่าร์ หรือ 5.4% แตะที่ 96.54 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งการให้กองกำลังนิวเคลียร์เตรียมพร้อม และความกังวลที่ว่า รัสเซียอาจจะถูกคว่ำบาตรรุนแรงมากขึ้นอีก


บ่ายนี้ สภาผู้ส่งออกฯ ได้เข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำ หลังสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตก ตัดธนาคารของรัสเซียบางแห่งออกจาก SWIFT เพราะหวั่นจะส่งผลกระทบต่อธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ


ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า การนำเข้า-ส่งออก หรือ การทำธุรกรรมโอนเงินกับยูเครนและรัสเซีย อาจมีความเสี่ยงได้รับเงินล่าช้า และผลกระทบต่อประเทศไทยในขณะนี้ คือ ราคาน้ำมัน ที่ส่งผลต่อต้นทุนธุรกิจ ราคาสินค้าและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นด้านที่กระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด 


ด้านธนาคารกลางรัสเซีย ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 10.5% สู่ระดับ 20% จากระดับ 9.5% ในวันนี้ เพื่อรับมือกับการทรุดตัวของค่าเงินรูเบิล ที่ร่วงลงเกือบ 30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรที่นานาชาติบังคับใช้กับรัสเซีย และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น