เศรษฐกิจ

เงินบาทแข็งสุดในรอบ 4 ปี หอการค้าไทย จี้รัฐดูแลค่าเงิน-แนะแยกดุลทองคำ

9 ก.ย. 2568

15 views

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินมาตรการอย่างเร่งด่วนเพื่อดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท ซึ่งแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจนแตะระดับ 31.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งสุดในรอบ 4 ปี โดยระบุว่าสถานการณ์ดังกล่าวสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและกำลังบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างรุนแรง


การแข็งค่าของเงินบาทได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ 3 ภาคส่วน ได้แก่ ภาคการส่งออกที่ต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคาที่ยากลำบาก, ภาคการท่องเที่ยวที่ต้นทุนสูงขึ้นในสายตาชาวต่างชาติ และภาคเกษตรกรรมซึ่งเกษตรกรได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ไม่สอดคล้องกับต้นทุน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปลูกข้าวและพืชไร่


ประธานหอการค้าไทยชี้ว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค มาจากภาวะอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับการที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการเทขายทองคำและแลกกลับเป็นเงินบาทจำนวนมาก รวมถึงมีเงินทุนไหลเข้า (Fund Flow) ทำให้เกิดอุปสงค์ต่อเงินบาทสูงขึ้นอย่างผิดปกติ


นายพจน์ ยังกล่าวถึงข้อจำกัดของ ธปท. ในการเข้าแทรกแซงค่าเงิน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกจับตาจากสหรัฐอเมริกาในประเด็นการบิดเบือนค่าเงิน หอการค้าไทยจึงได้ย้ำข้อเสนอเดิมที่เคยหารือในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) คือการพิจารณาแยกดุลบัญชีทองคำออกจากทุนสำรองอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การประเมินค่าเงินบาทสะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงและเอื้อต่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป แม้จะใช้เงินทุนสำรองเข้าดูแลก็อาจไม่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง จึงจำเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าเกินจริงกำลังทำลายศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ