เศรษฐกิจ

ชาวนาเห็นต่างมติอนุฯ นบข. ย้ำชาวนาต้องขายข้าวสด 8,000บาท/ตัน

โดย JitrarutP

21 ก.พ. 2568

257 views

นายกสมาคมชาวนาฯ ร่อนหนังสือ เห็นต่าง มติ อนุ นบข. แจ้ง 9 ประเด็นต้องเคลียร์ เน้นย้ำว่าชาวนาต้องขายข้าวสด 8,000บาท ต่อตัน

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ออกแถลงการณ์ ดังนี้ สมาคมชาวนาเกษตรกรไทยขอยืนยันว่า การประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาด ข้อเสนอของสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย รวมถึงข้อเสนอของชาวนาที่ยื่นผ่านผู้ว่าฯแต่ละจังหวัด ไม่ผ่านการพิจารณา โดยแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากขัดกับมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 และมติ นบข. เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน กำหนดว่าในการจัดทำมาตรการ/โครงการ เพื่อสนับสนุน หรือ ให้ความช่วยเหลือภาคเกษตรกร ให้หลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตรโดยตรงแก่เกษตรกร

ส่วนเรื่องที่ประชุมนำขึ้นมาพิจารณา โดยฝ่ายเลขาฯ เป็นผู้นำเสนอ ในเรื่องของมาตรการที่จะให้สหกรณ์ดำเนินการรับซื้อ หรือ รับฝากโดยสหกรณ์ได้ 500 บาท/ตัน ชาวนาได้ 1,000 บาท/ตัน ราคาข้าวแห้งที่ 8,500 บาท/ตัน สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยไม่ได้เป็นผู้นำเสนอ และไม่ได้เป็นแนวคิดของสมาคม สมาคมฯขอยืนยันตรงนี้เพื่อความเข้าใจ เพราะสมาคมฯ และคิดว่าหลายฝ่ายทราบดีถึงขีดความสามารถและจำนวนสหกรณ์ ว่าไม่มีกำลังพอ และส่วนที่จะเอาใครมาช่วยรับสมาคมฯไม่แน่ใจ แต่คิดว่าอาจจะมีการเอาโรงสีมาเข้าโครงการ และได้ค่าการจัดการ 500 บาท/ตัน และเงินชดเชยดอกเบี้ยอีก 6% ให้โรงสีซื้อนำตลาด โดยทุกฝายทราบว่าสมาคมได้ท้วงติ่งไปในหลายประเด็น

สรุป คือ มาตรการที่ออกมาทั้งหมด ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นของสมาคมชาวนา หรือของชาวนาที่ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้นำเสนอเลย ส่วนเรื่องการเผาฟางสมาคมได้นำเสนอต่อที่ประชุมเมื่อวานนี้ แต่ที่ประชุมบอกว่าไม่มีความชำนาญเชี่ยวชาญพอ จึงขอให้กระทรวงเกษตรนำไปพิจารณาพิจารณาในคณะอนุกรรมการด้านการผลิตต่อไป

ประเด็นคำถาม ที่สมาคมฯ ตั้งประเด็นสอบถามในที่ประชุมมีดังนี้

1. พื้นที่นาปรัง 10 ล้านไร่ ผลผลิต 6.5ล้านตัน แต่โครงการมีเป้าหมายซื้อเพียง 1.5ล้านตัน คำถาม คือ ส่วนที่เหลือจะทำอย่างไร และชาวนาที่เกี่ยวไปแล้วจะทำอย่างไร

2. ราคาที่ตั้งไม่ต่างจากราคาตลาด ที่มีการซื้อขาย ข้าวแห้ง (คช.15%) ที่ 8,500-8,800 บ./ตัน ข้าวสด (คช.ประมาณ 25%) 7,200-7,500 บ./ตัน

3. ต้องใช้หลักฐาน เช่นใบขึ้นทะเบียนเกษตรกร และอื่นๆหรือไม่ เพื่อยืนยัน สิทธิ์และจำนวนข้าวที่ขาย จะป้องกันอย่างไร จะเชื่อได้อย่างไรว่า มีการซื้อขายข้าวจากชาวนาจริง ไม่เป็นการเอาข้าวของผู้ประกอบการมาสวมแล้วใช้สิทธิ์ของชาวนาในการรับส่วนต่าง 1,000 บ./ตัน

4. ชาวนาที่ขายไปก่อนหน้านี้แล้ว จะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร

5. การขึ้นทะเบียนในฤดูนาปรัง มีจำนวนพื้นที่ และจำนวนชาวนากี่ราย

6. ข้อเท็จจริงที่ในวงการค้าข้าว และชาวนารับรู้กันว่าณปัจจุบัน มีเกษตรกรนำข้าวที่ไม่เป็นพันธุ์ข้าวของไทยมาปลูกจำนวนมากในพื้นที่ภาคกลาง และภาคเหนือ เราใช้ให้เข้า ใช้สิทธิ์ในการขายได้หรือไม่ หรือว่าจำกัดสิทธิ์ในการขาย และเราจะขึ้นทะเบียนเกษตรกรอย่างไร พันธุ์ที่เพาะปลูกจริงกับการขึ้นทะเบียนจะตรงกันหรือไม่

7. ในการที่ชาวนาเพาะปลูกข้าวในฤดูนาปรังมีหลายสายพันธุ์ เช่นข้าวหอมปทุม พันธุ์ข้าวกลุ่มข้าว5% กข.79พื้นนุ่ม ข้าวเหนียว จะดูแลแต่ละกลุ่มข้าวอย่างไร ควรจะกำหนดมาตราใน คราวเดียวกัน

8. สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้นำเสนอ จ่ายตรงชาวนา 500 บ./ไร่ หรือที่ชาวนาที่ออกเรียกร้องเสนอประกันรายได้ เพราะเหตุผลใดจึงไม่นำมาพิจารณา ทำไมไม่จ่ายตรงให้กับชาวนาเลย ทำไมต้องซื้อข้าวไปเก็บแล้ว จ่ายค่าฝากให้ชาวนา 1,000 บ/ตัน และจ่ายให้สหกรณ์ และ/หรือโรงสี ที่เข้าร่วม 500 บ/ตัน ทั้งที่เกษตรกรได้รับประโยชน์ไม่ทั่วถึง

9. โครงการชดเชย ด/บ. ให้โรงสีที่เก็บฝาก เดิม ที่ให้ 3% เพิ่มชดเชยอีก 3% รวมเป็น 6% หรือว่าขึ้นโครงการใหม่เป็น6%โดยรัฐจะต้องใช้วงเงินเพิ่มอีก 500 กว่าล้านบาท ประโยชน์จะถึงชาวนาจริงหรือไม่ และมีคำถามจากในที่ประชุมว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ประกอบการจะซื้อนำตลาด 200 บาทจริง

ที่ประชุมคณะอนุฯ ด้านการตลาด สรุปว่า การเห็นด้วยในหลักการ ส่วนรายละเอียดต่าง จะมีกรรมการชุดย่อยดำเนินการ และนำเสนอ นบข. และสมาคม เน้นย้ำว่าชาวนาต้องขายข้าวสด 8,000บาท/ตัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ชาวนา ,สมาคมชาวนา ,ราคาข้าว

คุณอาจสนใจ

Related News