“พิชัย” เคาะ 3 มาตรการเร่งด่วน พยุงราคาข้าวเปลือกตกต่ำ วงเงิน 1.8 พันล้าน

“พิชัย” นั่งหัวโต๊ะเคาะ 3 มาตรการเร่งด่วนพยุงราคาข้าวเปลือกตกต่ำ วงเงิน 1.8 พันล้าน “ชะลอสินเชื่อ-ชดเชยดอกเบี้ย-เปิดจุดรับซื้อ” จ่อชง นบข.ชุดใหญ่สัปดาห์หน้า คาดประกาศใช้เร็วสุดต้นมีนาคมนี้

ที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด หรือ นบข. เพื่อช่วยเหลือชาวนาจากปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

นายพิชัย นริทพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ที่ประชุมฯ ร่วม มีข้อสรุปผ่าน 3 มาตรเร่งด่วน รักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2568 รวมวงเงินทั้งสิ้น 1,893.53 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 3.8 ล้านตัน ดังนี้

1. มาตรการสินเชื่อชะลอ นาปรัง 2568 ปริมาณ 1.5 ล้านตัน วงเงิน 1,219.13 ล้านบาท (ซึ่งที่ผ่านมาจะช่วยเพียงแค่นาปีเท่านั้น) โดยจะช่วยเหลือค่าฝากเก็บ 1,500 บาทต่อตัน มีเงื่อนไขการเก็บข้าว 1 - 5 เดือน แบ่งรายละเอียด 2 กรณี คือ 1. กรณีเก็บในยุ้งเกษตรกรได้เต็มจำนวน 1,500 บาทต่อตัน 2. กรณีเก็บในสหกรณ์ : สหกรณ์ได้เงิน 500 บาทต่อตัน ส่วนเกษตรกรได้ 1,000 บาทต่อตัน

2. มาตรการชดเชยดอกเบี้ย ปริมาณ 2 ล้านตัน วงเงิน 524.40 ล้านบาท โดยจะช่วยอัตราดอกเบี้ยผู้ประกอบการ 6% ผู้ประกอบการการเก็บสต็อก 2-6 เดือน ผู้ประกอบการรับซื้อราคาสูงกว่าตลาด 200 บาทต่อตันขึ้นไป ซึ่งจะสามารถสร้างแรงจูงใจผู้ประกอบการให้เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวจำนวนมาก

3. มาตรการเปิดจุดรับซื้อปริมาณ 3 แสนตัน วงเงิน 150 ล้านบาท โดยรัฐจะสนับสนุนค่าบริหารจัดการ 500 บาท ผู้ประกอบการรับซื้อสูงกว่าตลาด 300 บาทต่อตันขึ้นไป

ส่วนมาตรการการขอเงินชดเชยค่างดการเผาตอฟาง 500 บาทต่อไร่ นั้น นายพิชัย ระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะอนุฯ ฝ่ายผลิต กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณา

ด้านนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย ระบุว่า ทั้ง 3 มาตรการดังกล่าวจะมีกรอบระยะเวลา 5 เดือนหลังประกาศใช้ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ในระดับที่พึงพอใจ จำนวน 8,000 บาท

ส่วนชาวนาที่จำหน่ายข้าวเปลือกนาปรังไปก่อนหน้านี้ จะนำเข้าไปหารือกับที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นขบ. ชุดใหญ่ ในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง

ทั้งนี้ ทั้ง 3 มาตรการดังกล่าวจะต้องนำเสนอ นขบ. ชุดใหญ่ ในสัปดาห์หน้า และนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีลำดับถัดไป คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ในต้นเดือนมีนาคมนี้

นอกจากนี้ยังมีอีกมาตรการเสริม ได้แก่ การกระตุ้นการบริโภคข้าวนาปรังภายในประเทศ ร่วมมือกับห้างค้าปลีก-โมเดิร์นเทรด จัดจุดจำหน่าย ราคาไม่เกิน 100 บาท ระยะเวลา 1 เดือน และส่งเสริมการส่งออกข้าวไทย ผ่านความร่วมมือกับ EXIM Bank จัดสินเชื่อให้ผู้ส่งออกในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ รวมทั้งติดต่อประเทศคู่ค้า เพื่อระบายข้าวที่ยังค้างสต๊อกออกให้เร็วขึ้น