พิษยอดขายรถร่วงหนัก กระทบผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ลดเวลาทำงานเหลือ 3-4 วัน ไร้โอที

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.67 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกันยายน 2567 ว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกันยายน 2567 มีทั้งสิ้น 122,277 คัน ลดลง 25.48% จากเดือนกันยายน 2566 จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-กันยายน 2567 มีจำนวน 1,128,026 คัน ลดลง 18.61% จากเดือนมกราคม-กันยายน 2566


นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกันยายน 2567 มีจำนวน 39,048 คัน ลดลง 37.11% ถือเป็นยอดต่ำสุดในรอบ 53 เดือน หรือ 4 ปี 5 เดือน ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะร่วง 39.79% เนื่องจากหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ยังอยู่ในระดับสูง 208,575 ล้านบาท หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259,330 ล้านบาท ในเดือนกรกฎาคม 2567 ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาสสองปี 2567 ที่โตต่ำแค่ 2.3% และคาดว่า 2567 จะเติบโตแค่ 2.7-2.8% เท่านั้น และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม 2567 หดตัว 1.91% แสดงถึงรายได้คนทำงานยังคงอ่อนแอ และตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2567 รถยนต์มียอดขาย 438,659 คัน ลดลง 25.25%


นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนกันยายน 2567 ส่งออก 80,254 คัน ลดลง 17.67% จากการขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนเที่ยวเรือลดลงและมีการใช้จ่ายลดลงในตลาดประเทศคู่ค้าหลายประเทศมียอดขายรถยนต์ลดลง จึงส่งออกลดลงทุกตลาดยกเว้นตลาดออสเตรเลียที่ยังเพิ่มขึ้น เดือนมกราคม-กันยายน 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 768,887 คัน ลดลง 6.45%


ด้านยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง ประเภทบีอีวี เดือนกันยายน 2567 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,606 คัน ลดลง 25.81% เดือนมกราคม-กันยายน 2567 บีอีวี จดทะเบียนใหม่สะสม 75,653 คัน เพิ่มขึ้น 11.67%


นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ปลายเดือนตุลาคมนี้ จะหารือกับผู้ผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ ถึงแนวโน้มการลดเป้าการผลิตรถยนต์ไทย หลังจากเดือนกรกฎาคม ได้ลดเป้าการผลิตรถยนต์ใหม่เป็น 1,700,000 คัน จากเดิมต้นปีคาดการณ์ 1,900,000 คัน เป็นการปรับเป้าเฉพาะยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเหลือ 550,000 คัน จากเดิม 750,000 คัน ขณะที่ยอดส่งออกคงเดิม 950,000 คัน ขณะที่เวลานี้ยอดขายประเทศยังลดลงต่อเนื่อง และส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบจากสงคราม คาดภาพรวมลดลงหลายหมื่นคัน ทั้งนี้ผลจากการผลิตที่ลดลงอย่างหนัก ได้กระทบถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซัพพลายเชนจำนวนมาก ทำให้ต้องลดเวลางานเหลือเพียง 3-4 วันต่อสัปดาห์ ส่วนโอทีไม่มีนานแล้ว


"อยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์โดยด่วน เพราะสาเหตุหลักของยอดขายรถยนต์ที่ลดลงมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สะสมจากปัญหาโควิด ทำให้ประชาชนที่ซื้อรถไม่มีกำลังผ่อน โดนยึด จากปัญหานี้ทำให้ไฟแนนซ์ไม่ปล่อย โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่เป็นรถที่ใช้ทำมาหากินของประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และควรเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน และเร่งการลงทุนเพื่อสร้างงาน เพื่อให้ประชาชนมีกำลังซื้อ ดันยอดขายรถยนต์กลับมาโดยเร็ว"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gCYuEd-hMLU