‘กลุ่มเปราะบาง’ ขอนแก่น ดีใจ เงินดิจิทัลล็อตแรกจะเข้าเร็วๆ นี้ ชี้ถ้าเป็นเงินสดยิ่งดี

กลุ่มเปราะบางดีใจ เงินดิจิทัลจะเข้าล็อตแรกเร็ว ๆ นี้ ถ้าได้เป็นเงินสดยิ่งดี เชื่อจะสามารถทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น จากที่ตอนนี้ย่ำแย่ ขณะที่ กลุ่มอื่น ๆ ไม่คาดหวัง ได้เงินก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีเงินก็จะง่ายทุกเรื่อง เพราะทุกคนต้องการเงินสดสามารถใช้จ่ายได้ทุกอย่าง

วันนี้ (11 ก.ย. 67) เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของประชาชนถึงโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งเริ่มแจกให้กับกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน และกลุ่มผู้พิการ จำนวนกว่า 14.5 ล้านคน คาดโอนเงินให้หลังจากวันที่ 20 ก.ย. 67 ส่วนในรายละเอียดนั้นต้องรอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ อีกครั้ง ในวันที่ 12 - 13 ก.ย. 67 และก็มีข้อมูลล่าสุดมาอีกว่า จะจ่ายให้เป็นล็อต โดยล็อตแรกนี้ได้ก่อน 5,000 บาท

โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังตลาดสดเทศบาล 1 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่า พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ที่จะได้เงินดังกล่าวเป็นกลุ่มแรก ต่างก็รู้สึกดีใจ และส่วนใหญ่จะนำเงินไปใช้จ่ายลงทุนร้านค้าตัวเอง

แต่ในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ต่างไม่คาดหวังกับเงินดังกล่าว ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มองว่า ถ้าได้เงินมาก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร และยังกังวลในเรื่องเงื่อนไขว่า จะได้เป็นเงินแบบไหน ถ้าเป็นเงินสดก็จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า

นางหนูกอ นาใต้ อายุ 71 ปี ขายผักในตลาดสดเทศบาล 1 ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจ เพราะตอนนี้ การเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง บางวันต้องยืมใช้จากเงินนอกระบบมาลงทุนขายผัก ทั้งค่าอยู่ ค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าไปโรงเรียนหลาน ถ้าได้มาก็จะได้ใช้จ่ายลงทุน และนำไปปิดหนี้นอกระบบ ซึ่งที่ต้องยืม เพราะไม่มีเงินมาลงทุนค้าขาย บางวันขายไม่ได้ทุนคืนก็มี ก็ต้องยืมรายวันมาลงทุนไปก่อน ถ้าได้เงินตัวนี้มา ก็พอช่วยได้ในระดับหนึ่ง เพื่อมาลงทุนค้าขาย โดยส่วนตัวเท่าที่ฟังข่าวสารมา ไม่มั่นใจว่าจะเป็นเงินสด หรือเงินแบบไหน แต่ถ้าได้เงินสดมาก็จะดี จะได้นำมาใช้ลงทุนต่อ เพราะเศรษฐกิจตอนนี้ ค้าขายก็ได้กำไรน้อย ลูกค้าก็ไม่ค่อยมีเหมือนเดิม คนเคยมาซื้อก็น้อยลง บอกว่าหาเงินยาก ทำให้ซื้อลดลง ซึ่งการค้าขายที่ร้านต้องขายให้หมดถึงจะเห็นกำไร

นางตุ๊กตา ศรีอภัย อายุ 57 ปี ขายปลาสด-ปลาปล่อย โดยขายมาร่วม 50 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าได้เงินสดมาก็รู้สึกดีใจ เศรษฐกิจจะได้ดีขึ้น ถ้าได้เงินมาก็จะมาซื้อข้าวสาร น้ำมันพืช ของใช้ครัวเรือน ส่วนตัวติดตามข่าวสารมา ก็ทราบว่าจะได้เงินมาเป็นล็อต ล็อตแรก 5,000 บาท ถ้าได้เงินสดมาก็จะได้มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น คนออกมาใช้จ่ายซื้อของกัน และมีเงินใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ พอเศรษฐกิจดีขึ้นทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง และในตลาดก็จะดีขึ้นตามไปด้วย

นายพลวัฒน์ ดอนตระกูล อายุ 36 ปี ขายเครื่องเทศ พริก กระเทียม มาเกือบ 5 ปี และไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองไม่มีบัตรประชารัฐ จะอยู่ในกลุ่มต่อไป แต่ถ้าถามถึงความหวังนั้น ไม่มีหวังอะไร และไม่รู้ว่าสิทธิ์ที่จะใช้เงินนี้จะใช้จ่ายอะไรได้บ้าง แต่ถ้าได้ และเป็นเงินสด ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะสามารถนำไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ แต่โครงการนี้ก็ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน แต่ถ้าได้มาก็จะดี เพราะเศรษฐกิจตอนนี้ย่ำแย่ อยากให้ทางรัฐบาลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าการแจกเงิน

นาง ทิวารัตน์ สร้อยสุวรรณ อายุ 42 ปี ขายผลไม้มาเกือบ 30 ปี ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าได้เงินสดมาก็จะดี และง่ายทุกอย่าง ทั้งคนซื้อคนขาย แต่ละคนจะสามารถบริหารส่วนตัวได้ดี แต่ถามว่าเงินจำนวนที่จะได้มานั้นจะไปลงทุนอะไร ส่วนตัวก็คงนำมาใช้จ่ายลงทุนที่ร้าน เพราะเงินไม่ใช่จำนวนมาก ใช้ลงทุนก็หมดแล้ว เพราะเศรษฐกิจตอนนี้ย่ำแย่ไปหมด แต่ละคนไม่มีเงินมาจับจ่ายซื้อของ พอลูกค้าไม่มีเงินซึ่งเป็นต้นทางเศรษฐกิจ ก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่มีเงิน ไปต่อกันไม่ได้ และเชื่อว่า ถ้าทุกคนได้เงินดิจิทัลมาก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะทุกคนมีเงิน ก็จะทำให้กล้าซื้อกล้าใช้ และยิ่งเป็นเงินสด ก็จะยิ่งทำให้ทุกอย่างง่ายไปหมด และเงื่อนไขของโครงการนั้น ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าจะมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือไม่ หากถามถึงความกังวล คงไม่มี เพราะคิดแค่ว่าถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้มา แล้วทุกคนมีเงิน อะไร ๆ ก็จะง่ายไปหมด