เศรษฐกิจ

สถานทูตจีน’ โต้สินค้าจีนทะลักไทย ยันจีน-ไทย ค้าแบบวิน-วิน 'อีคอนไทย' ชี้ไม่ใช่แค่สินค้า แต่ส่งคนมาด้วย

โดย nattachat_c

9 ก.ย. 2567

141 views

จากกรณี สินค้าจีนเข้ามาตีตลาดไทย ทำให้บริษัท/โรงงาน ไทยปิดตัวหลายแห่ง เนื่องจากไม่สามารถขายสินค้าในราคาที่ถูกเท่าสินค้าจีนได้ จนเกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา


ล่าสุด วานนี้ (8 ก.ย. 67) ทางการจีนได้ออกโรงชี้แจง รายงานที่ว่า สินค้าราคาถูกจากประเทศของตน ได้ทะลักเข้ามาในตลาดไทย จนทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นเดือดร้อนหนัก โดยสถานทูตจีนประจำประเทศไทย โพสต์แถลงการณ์ทางบัญชีเฟซบุ๊ก ว่า การค้าขายระหว่างจีน-ไทย นั้น “เป็นประโยชน์ต่างตอบแทนให้กันในแบบ ‘วิน-วิน’ (ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่)” และว่า “เกือบ 80% ของสินค้าที่ไทยนำเข้าจากจีนนั้น เป็นสินค้าทุน (capital goods) และสินค้าขั้นกลาง (intermediate goods) ที่นำไปใช้ในกระบวนการผลิต และเพื่อเพิ่มมูลค่าก่อนจะนำไปส่งออกต่อไป”


แถลงการณ์นี้ยังกล่าวด้วยว่า สินค้าที่เรียกกันว่าเป็น 'ของราคาถูก' ส่วนใหญ่นั้น “เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เสื้อผ้า และเครื่องประดับ และอื่น ๆ ซึ่งมีสัดส่วนไม่ถึง 10% ของมูลค่าสินค้าที่มีการนำเข้าจากจีน”


การออกแถลงการณ์โต้คำกล่าวหาของทางการจีนนี้ ออกมาหลังรัฐบาลไทยประกาศมาตรการใหม่เพื่อรับมือกับการหลั่งไหลเข้ามาของสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีน ที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับภาคการผลิตของประเทศ


ซึ่งก่อนหน้านี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เคยออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า สินค้าราคาถูกของจีนอาจทำให้เกิด 'สึนามิ' ถล่มไทย และประเทศในภูมิภาคนี้ โดยอ้างว่า สินค้าต้นทุนต่ำที่ทะลักเข้ามาในประเทศเมื่อปี 2023 มีส่วนทำให้โรงงานเกือบ 2,000 แห่ง ต้องปิดตัวลงไปแล้ว


ทั้งนี้ สถานทูตจีนในไทยได้อ้างถึงข้อมูลสถิติเบื้องต้นว่า มีบริษัทจีนกว่า 1,000 แห่ง ที่มาลงทุนในไทย และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการยื่นเรื่องขอการสนับสนุนโครงการลงทุนของจีนจำนวน 588 โครงการที่มีมูลค่ารวมเกือบ 7,000 ล้านดอลลาร์กับรัฐบาลไทย โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานใหม่ และการผลิตทันสมัย


ในวันเดียวกัน นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภานายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ 5 ข้อ


ซึ่งข้อที่ 5 นายธนิต ได้บอกว่า รัฐบาลควรปกป้องธุรกิจและอาชีพคนไทย จากการทุ่มตลาดสินค้าจีนจนวินค้าล้นตลาด จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว อัตรการว่างงานของคนหนุ่มสาวมีมากถึง 17% รวมถึงการกันการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ-ยุโรป ทำให้สินค้าจีนล้นตลาดแล้วเข้ามาทะลักในไทย


นายธนิต กล่าวด้วยว่า ควรจะมีมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และมีมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าราคาถูก เช่น จะต้องนำเข้ามาขายในแพลตฟอร์มของคนไทย หรือถ้าเป็นแพลตฟอร์มของต่างชาติ ก็ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะได้มีการเก็บ-ตรวจสอบภาษี และต้องมีใบอนุญาตนำเข้าสินค้า


และตอนนี้ จีนไม่ได้ส่งออกแค่สินค้าแล้ว แต่ส่งคนออกมาด้วย ผ่านการเข้ามาทำธุรกิจในไทย อาทิ ร้านอาหาร ร้านทำผม คำถามคือปล่อยให้เข้ามาแบบนี้ได้อย่างไร เพราะเป็นการแย่งอาชีพคนไทย และทำลายเศรษฐกิจไทย ควรเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนรู้เห็น และมีบทลงโทษชาวไทยที่เป็นนอมินิ


นายธนิต กล่าวว่า รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการควิกวินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เหมือนการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาจากเงินดิจิทัลมาเป็นเงินจริง ซึ่งต้องออกมาให้รวดเร็วที่สุด ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย แต่ความน่ากังวลคือ ถ้ามีการเงินเรื่อย ๆ ประชาชนจะเสพติดการถูกช่วยเหลือในรูปแบบการแจกเงินนี้


เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ และควรออกแพ็กเกจที่จะช่วยเอสเอ็มอี และและประชาชนที่ได้รับกระทบจากน้ำท่วม


เรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 400 บาท เดือนตุลาคมนี้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะทำการปรับขึ้นค่าจ้าง ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ควรปรับแค่บางกลุ่มอาชีพ และภาคประกอบการ



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/mxZVWs5PWlE

คุณอาจสนใจ

Related News