เศรษฐกิจ
กกร. ห่วงภาคการผลิตหดตัว เผยครึ่งปีแรก โรงงานปิดตัวแล้วกว่า 667 แห่ง
โดย passamon_a
8 ส.ค. 2567
207 views
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.67 นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ประจำเดือนสิงหาคม 2567 เปิดเผยว่า กกร.มีความกังวลต่อการขาดดุลการค้าระหว่างไทยกับจีน ที่ล่าสุด 6 เดือนแรกของปี 2567 มีการนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นถึง 7.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 37,569.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าจากจีน -19,967.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่งผลกระทบกับภาคการผลิตกว่า 23 กลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจาก Platform e-commerce ที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศโดยขายสินค้าจากโรงงานตรงสู่ผู้บริโภคในราคาถูก ซึ่งเป็นการค้ารูปแบบใหม่ของจีน ยิ่งกดดันผู้ประกอบการ SMEs เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันทั้งด้านราคา และต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าได้
ที่ประชุม กกร. จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเข้มงวดการตรวจสอบมาตรฐานสินค้านำเข้า กำกับและควบคุมสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษี โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าภายในประเทศอย่างเข้มข้น โดยสร้าง Ecosystem ที่ทำให้ผู้ประกอบการไทย และ Supply Chain ไทยมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
โดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส.อ.ท. เสนอรัฐบาลให้ขยายเพดานสิทธิประโยชน์จากการให้แต้มต่อสำหรับผู้ที่นำสินค้า ที่ได้รับรองเครื่องหมาย Made in Thailand หรือ MiT จาก ส.อ.ท. ไปเสนอราคาภาครัฐสินค้า จากปัจจุบันที่ 5% เป็น 5-20% โดยพิจารณาเป็นรายสินค้า เป็นระยะเวลา 1-2 ปี และต้องทำเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาสินค้าจีนทุ่มตลาดไทย
ทั้งนี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยหอการค้าไทย-จีน และ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีน อย่างยั่งยืน (Thai-Chinese Center for Business Sustainability (TCCBS)) เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าและการลงทุน ระหว่างไทยและจีน ให้อยู่ในกรอบของผลประโยชน์ร่วมกันภายใต้กรอบของกฎหมายของทั้งสองประเทศและกติกาสากล
นอกจากนี้ กังวลกับส่วนแบ่งตลาดของสินค้าอุตสาหกรรมไทยในอาเซียนที่ลดลง ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก 12.7% ในไตรมาส 1 ปีที่แล้ว เหลือ 11.5% ในไตรมาส 1 ปีนี้ และยานยนต์ลดลงจาก 20.9% เหลือ 18.7% เป็นผลจากที่จีนได้ส่งออกสินค้ามาแข่งขันในตลาดอาเซียนมากขึ้น ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรม 6 เดือนแรกของปีหดตัว 1.8%
จากข้อมูลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่ามีโรงงานปิดตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรกแล้วกว่า 667 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 86.31% หรือเฉลี่ย 111 แห่ง/เดือน และหากพิจารณามูลค่าโรงงานต่อโรงที่ปิดตัว พบว่ามีเงินทุนลดลงเหลือเฉลี่ย 27.12 ล้านบาทต่อโรงงานสะท้อนว่าส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็ก หรือ SMEs ที่ปิดโรงงานในอัตราส่วนที่เร่งขึ้น
โดย กกร.อยู่ระหว่างเตรียมข้อเสนอเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม อาทิ การส่งเสริมสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ (Made in Thailand) การสนับสนุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อรองรับ EV และ Transform ไปยังธุรกิจใหม่ เป็นต้น
อีกทั้งเศรษฐกิจไทยมีการลงทุนน้อย โดยสัดส่วนการลงทุนต่อ GDP ต่ำกว่า 25% ลดลงจากที่เคยสูงเกือบ 30% ในขณะที่มีการออมในระดับสูงจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง และมีเงินทุนไหลออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นการเสียโอกาสในการนำเม็ดเงินมาลงทุนปรับโครงสร้างการผลิตและยกระดับประสิทธิภาพการผลิตภายในประเทศ
ที่ประชุม กกร. จึงเสนอให้ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนทางภาษีอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการลงทุนในเมืองรอง และสนับสนุนการลงทุนโดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/JUIYVBuwE0Y
แท็กที่เกี่ยวข้อง กกร. ,โรงงานปิดตัว ,ภาคการผลิตหดตัว