เศรษฐกิจ

ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ กยศ.เปิดเช็กยอดหนี้ใหม่ มีผู้กู้ได้ผลประโยชน์ 2.98 ล้านราย ยอดหนี้ลดลง 5.6 หมื่นล้าน

โดย nattachat_c

19 ก.ค. 2567

222 views

วานนี้ (18 ก.ค. 67) นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ก.ย.ศ.ได้มีการคำนวณยอดหนี้ใหม่ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ได้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ให้แก่ผู้กู้ยืมจำนวนกว่า 3.65 ล้านบัญชี เสร็จแล้ว


โดยมีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์กว่า 2.98 ล้านราย ภาระหนี้ลดลง 5.63 หมื่นล้านบาท โดยผู้กู้ยืมส่วนใหญ่มียอดหนี้ลดลง และมีผู้กู้ยืมที่มียอดชำระหนี้ครบถ้วน และสามารถปิดบัญชีได้ จำนวน 1.77 แสนราย


โดยผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ได้ที่หน้าเว็บไซต์ กยศ. www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567


โดย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีการคำนวณยอดหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืมจำนวนกว่า 3.65 ล้านบัญชี เสร็จแล้ว มีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์หลังจากคำนวณยอดหนี้ใหม่ จำนวนกว่า 2.98 ล้านราย ภาระหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท


โดยผู้กู้ยืมส่วนใหญ่มียอดหนี้ลดลง บางรายสามารถปิดบัญชีได้ และบางรายได้รับเงินคืน โดยผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ได้ที่หน้าเว็บไซต์ กยศ. ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

-------------

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้เปิดเผยว่า “ขณะนี้กองทุนฯ ได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้แก่ผู้กู้ยืมกว่า 3.65 ล้านบัญชีแล้ว พบว่า มีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์จากการคำนวณยอดหนี้ใหม่จำนวนกว่า 2.98 ล้านราย ยอดหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ประกอบด้วย

  • ผู้กู้ยืมมียอดหนี้ที่ต้องชำระลดลง จำนวน 2.8 ล้านราย
  • ผู้กู้ยืมที่มียอดชำระหนี้ครบถ้วนและสามารถปิดบัญชีได้ จำนวน 177,936 ราย
  • มีผู้จะได้รับเงินคืน จำนวน 177,917 ราย เป็นเงิน 2,104 ล้านบาท
  • สามารถหยุดหักเงินเดือนผ่านองค์กรนายจ้าง จำนวน 18,326 ราย


ทั้งนี้ การคำนวณยอดหนี้ใหม่ข้างต้นเป็นการคำนวณหนี้โดยไม่ใช้ระบบ “กยศ. Connect” ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 โดยได้นำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนกองทุนฯนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่ตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และคิดเบี้ยปรับในอัตรา 0.5% ต่อปี โดยผู้กู้ยืมสามารถเข้าระบบตรวจสอบภาระหนี้ที่คำนวณใหม่ได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป


ขอให้ลูกหนี้ กยศ.ทุกรายเข้ามาทำการตรวจสอบการคำนวณหนี้ใหม่ และดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ หากลูกหนี้คนไหนมีการทำสัญญากู้ยืม แบบมีคนค้ำประกัน ถ้าได้ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ คนที่ค้ำประกันก็จะหลุดพ้นภาระการค้ำประกันทันที


นอกจากนี้ ยังมีลูกหนี้ที่หมดภาระหนี้แล้ว และไม่ไต้องทำการหักค่างวดการเงินเดือน 1.8 หมื่นราย จากที่หักเงินเดือนอยู่กว่า 1.2 ล้านราย รวมทั้งมีลูกหนี้ที่ชำระเกินอีก 1.77 แสนราย คิดเป็นวงเงิน 2,104 ล้านบาท ซึ่งลูกหนี้ต้องแจ้งความประสงค์ขอรับเงิน โดยเริ่มคือได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป


นายลวรณ กล่าวว่า ทั้งนี้ แม้การปรับแก้กฎหมาย กยศ.ใหม่ จะเป็นผลดีทำให้ลูกหนี้มีภาระค่างวดลดลง แต่ก็มีผลกระทบเรื่องของการเม็ดเงินหมุนเวียนภายใน กยศ.ด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 นั้น จะเป็นปีแรกที่ กยศ.กลับมาของงบประมาณจากรัฐบาล หลังจากที่ไม่ได้ขอมาตั้งแต่ปี 2560 โดยได้รับจัดสรรวงเงินจากสำนักงบประมาณราว 8 พันล้านบาท


ส่วนฐานะกองทุนมีเงิน 1 หมื่นล้านบาท สามารถปล่อยกู้ได้อย่างต่อเนื่อง

----------- 



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/OIdDK-ROJTM

คุณอาจสนใจ

Related News