เศรษฐกิจ

‘วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง’ ทุ่ม 286 ล้าน ชนะประมูลข้าว 10 ปี - คนวงการข้าวชี้ ราคาสูงเกินจริง แพงกว่าข้าวใหม่

โดย nattachat_c

18 มิ.ย. 2567

403 views

วานนี้ (17 มิ.ย. 67) มีการยื่นซองเสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1 / 2567 เป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ประมาณรวม 15,000 ตัน ใน 2 คลัง จังหวัดสุรินทร์


โดย องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เปิดให้ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งหมด 7 ราย ได้ยื่นซองเสนอราคา ตั้งแต่ 9.00 - 12.00 น.


คลังสินค้า บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด หลัง 4 ปริมาณข้าว รวม 3,356 ตัน มีบริษัทที่มายื่นซอง 6 ราย ได้แก่

1. บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร เสนอราคาประมูลที่ 64.01 ล้านบาท (19.07 บาท/กก)

2. บริษัท ธนสรร ไรซ์ จังหวัดชัยนาท เสนอราคาประมูลที่ 60.4 ล้านบาท

3. บริษัท สหธัญ จังหวัดนครปฐม ยื่นประมูลในราคา 62.7 ล้านบาท

4. บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 / จังหวัดนครสวรรค์ เสนอราคาประมูลที่ 53.7 ล้านบาท

5. บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อา.การเกษตร จังหวัดนครสวรรค์ เสนอราคาประมูลที่ 56.08 ล้านบาท

6. บริษัท ทรัพย์แสงทอง ไรซ์ จากจังหวัดสุพรรณบุรี เสนอราคาประมูลที่ 40.9 ล้านบาท


คลังสินค้ากลางกิตติชัย หลัง 2 ปริมาณรวม 11,656 ตัน มีผู้ยื่นซองเสนอราคา จำนวน 4 ราย ได้แก่

1. บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร เสนอราคาประมูลที่ 222.2 ล้านบาท (19.6 บาท/กก.)

2. บริษัท ธนสรร ไรซ์ จังหวัดชัยนาท เสนอราคาประมูลที่ 209.8 ล้านบาท

3. บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 จังหวัดนครสวรรค์ เสนอราคาประมูลที่ 186.5 ล้านบาท

4. บริษัท ทรัพย์แสงทอง สุพรรณบุรี เสนอราคาประมูลที่ 182.04 ล้านบาท


ดังนั้น ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดทั้ง 2 คลัง คือ บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร รวมราคาประมูลทั้ง 2 คลัง กว่า 286 ล้านบาท เฉลี่ยประมูลไปในราคากิโลกรัมละ 19.07 บาท


โดยทางคณะทำงานรับ-เปิดซองและต่อรองราคาข้าวในสต๊อกของรัฐ ได้ต่อรองราคา เพื่อให้ได้ราคาประมูลที่สูงขึ้นอีก ทั้งนี้ จะมีการประกาศชื่อบริษัทที่ชนะการประมูล ผ่านเว็บไซต์ อคส. ภายในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ และกำหนดต้องทำสัญญาซื้อขายภายใน 15 วันนับตั้งแต่ อคส.แจ้งผลเป็นทางการ

----------------

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่า หลังจากการเปิดซองในช่วงบ่าย จะมีกระบวนการต่อรองราคา หากทำได้เร็ว คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ ซึ่งการที่มีผู้สนใจมาซื้อข้าว ถือเป็นตัวสะท้อนได้ดีว่า ข้าวไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้จะเก็บมานาน แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดเก็บ และผู้ซื้อเอง ก็ต้องนำไปปรับปรุงต่อ


นายภูมิธรรม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับท่านที่สงสัยว่า จะเอาข้าวไปไหน และจะกระทบกับอุตสาหกรรมข้าวในภาพรวม หรือไม่ ขอชี้แจงว่า ไม่กระทบ เนื่องจากข้าวหอมมะลิ ฤดูกาลใหม่ ยังไม่ออก จะให้ผลผลิตในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งขณะนี้ อยู่นอกฤดูกาล และปริมาณข้าวสารในการประมูลครั้งนี้ ถือว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนที่ไทยส่งออกกว่า 8,000,000 ตันต่อปี และข้าวหอมมะลิที่ประมูลในครั้งนี้ ได้ผ่านการตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้งด้านกายภาพ และคุณภาพ ไม่พบสารก่อมะเร็ง ไม่มีสารรมยาตกค้าง และยังมีคุณภาพทางโภชนาการ


สำหรับกรณีที่ผู้ชนะการประมูลจะนำไปส่งออกจะต้องทำการปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ได้ตามมาตรฐาน ข้าวหอมมะลิของกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งมีการกำหนดมาตรฐานไว้ สำหรับการจำหน่ายในประเทศก็จะต้องผ่านมาตรฐานของกรมการค้าภายใน และยังมีหน่วยงานตรวจสอบ เช่น อย. เป็นต้น

----------------

ทั้งนี้ จากผลการประมูลข้าว 10 ปี ที่มีการเสนอราคาสูงถึง กก.ละ 19 บาท มีรายงานว่า คนในวงการค้าข้าวบอกว่าเป็นเรื่อง 'เหลือเชื่อ' ราคาประมูลไม่สมเหตุสมผล ราคาสูงเกินจริง


เนื่องจากข้าวหอมมะลิในสต๊อกรัฐบาลล็อตนี้ เก็บมานานถึง 10 ปี ไม่มีความหอมเหลือ ทำให้คุณภาพเทียบเท่าข้าวขาว แต่เมื่อเปรียบเทียบราคาข้าวขาว 5% ข้าวใหม่คุณภาพดี ปัจจุบันมีราคา กก.ละ 21.50 บาท


และข้าว 10 ปี ต้องมีการปรับปรุงคุณภาพ ทำให้ต้นทุนอาจสูงกว่าราคาข้าวขาว 5% ข้าวใหม่คุณภาพดี 


ขณะที่ นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นช่วงราคาข้าวสูง เพราะข้าวฤดูเก่าหมด และจะเกี่ยวข้าวได้ปลายเดือน พ.ย.นี้ จึงทำให้ราคาข้าวอยู่ขาขึ้น เพราะซัพพลายในตลาดข้าวเหลือน้อย โดยหากปรับสภาพ และค่าขนส่ง คาดว่าต้นทุนตันละ 3 บาท ราคาต้นทุนจะเป็น 22 บาท ขายต่ำกว่าราคาตลาด 20% ยังได้กำไร


นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด หนึ่งในผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ ระบุว่า การประมูลถือว่าคึกคัก โดยมีผู้เข้าร่วมประมูลหลายราย แสดงให้เห็นว่าทุกบริษัทมองว่า ข้าวในคลังยังมีคุณภาพใช้ได้สามารถนำไปขายต่อได้


โดยขณะนี้ ตลาดข้าวมีความต้องการสูง และราคาข้าวในตลาดอยู่ในเกณฑ์ดี โดยข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นข้าวใหม่อยู่ที่ กก.ละ 21.50 บาท ในส่วนของบริษัทที่มาประมูลครั้งนี้คือส่งออกเป็นหลัก โดยตลาดที่มีความต้องการข้าวได้แก่ บราซิล อิรัก

----------------

จากข้อมูลของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ปัจจุบันยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ หลังจากจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 โดยมีทุนจดทะเบียน 2,000,000 บาท


ประกอบธุรกิจประเภท จำหน่ายพืชผลทางการเกษตร หมวดธุรกิจ : การขายส่งวัตถุดิบอื่น ๆ ทางการเกษตรซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น


สถานที่ตั้งของบริษัท อยู่ที่ 999/9 หมู่ 8 ตำบลคลองขลุง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร


กรรมการบริษัท มี 3 คน ได้แก่ นางสาววรรณิสา ทองจิตติ, นางสาวทานตะวัน นาสมใจ และนายศิวะ มาประเสริฐ

---------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/cCDIZkf3rxA





คุณอาจสนใจ

Related News