เศรษฐกิจ
บิ๊กธุรกิจใหญ่ ชี้ปี 68 มี 50 บริษัทใหญ่ เสี่ยงปิดตัว
โดย passamon_a
17 มิ.ย. 2567
330 views
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.67 นายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานที่ปรึกษา กลุ่มบริษัทสยามพาร์คซิตี้ ประกอบด้วยสวนน้ำสวนสนุก สยามอะเมซิ่งพาร์ค และบางกอกเวิลด์ เปิดเผยว่า จากปัจจัยหลายด้าน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งกำลังซื้อประชาชนไม่ดีเท่าที่ควร มีความระมัดระวังการใช้จ่าย ภาระค่าใช้จ่ายทั้งภาคธุรกิจและประชาชนสูง ภาระหนี้สิน ปัญหาขัดแย้งในต่างประเทศ เป็นต้น จะมีผลกระทบต่อสภาพคล่องในธุรกิจ
และคาดว่าในปี 2568 จะมีบริษัทขนาดใหญ่แบกรับภาระไม่ไหว และปิดตัวประมาณ 50 ราย ครอบคลุมในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ถือเป็นเรื่องน่ากังวล และเชื่อว่าภาครัฐรับรู้และหาแนวทางในการดูแล
"หลายปัจจัยกดดันสถานการณ์โดยรวมภาคธุรกิจ ซึ่งมีการสะสมมาตั้งแต่เกิดเหตุเชื้อโควิดระบาด การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยเกินไป และมักเปลี่ยนนโยบาย ย่อมมีผลต่อการทำธุรกิจเอกชนที่ได้เตรียมให้สอดรับอย่างภาครัฐ อย่างเราขึ้นบางกอกเวิลด์ ตั้งใจเป็นจุดรองรับการผลิตและจำหน่ายสินค้าโอท็อป ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้ามาแหล่งค้าขายประจำและเพิ่มรายได้ แต่เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนแปลง โอท็อปวันนี้ก็ไม่ได้พูดถึง ยังดีมีซอฟต์พาวเวอร์ ก็ต้องใช้เวลา ปีนี้ถ้าไม่ดีขึ้น ปีหน้าจะหนัก ทำให้ผมมองว่าปีหน้ามีโอกาสบริษัทใหญ่ปิดตัวหรือเปลี่ยนมือ ดูจากที่พูดคุยกันในวงการธุรกิจ ไม่แค่ในไทย ต่างประเทศก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน" นายไชยวัฒน์ กล่าว
ขณะที่ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.67 นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า สถานการณ์การปิดกิจการโรงงานในปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง เนื่องจากอัตราการปิดเร่งตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ สะท้อนจากข้อมูลที่ออกมา พบว่าตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงไตรมาสแรกปี 2567 ที่ผ่านมา มีโรงงานปิดตัวกว่า 1,700 แห่ง
โดยอุตสาหกรรมที่น่าห่วง 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่ใช้แรงงานจำนวนมากและได้รับผลกระทบจากค่าแรง เช่น รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ทอผ้า เป็นต้น ซึ่งกลุ่มนี้มีปิดไปบ้างแล้วและจะเหนื่อยมากขึ้น
2. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีและดีมานด์ที่หายไป เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น
3. กลุ่มที่มีการแข่งขันโดยตรงจากสินค้าจีน เช่น เหล็ก รถยนต์ เป็นต้น
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่อาจจะยังไม่ฟื้นตัวดี ดังนั้นจึงยากที่รัฐบาลจะดันจีดีพีปี 2567 เติบโตถึง 3% เนื่องจากไตรมาสแรกจีดีพีโตแค่ 1.5% เท่านั้น ซึ่งถ้าจะให้ทั้งปีโตได้ 3% ในแต่ละไตรมาสจีดีพีต้องโต 3.5% อย่างไรก็ตามมองว่า ถ้าดูรายไตรมาสก็มีโอกาสจะเห็นจีดีพีแตะ 3% โดยไตรมาส 2 ของปีนี้มีปัจจัยหนุนจากงบประมาณปี 2567 ที่มีการเบิกจ่ายแล้ว น่าจะเห็นจีดีพีโตใกล้ 3%
"ปัญหาของเศรษฐกิจไทยคือ เรื่องโครงสร้างและขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ดังนั้นรัฐบาลต้องดูเรื่องการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระยะยาว มากกว่าออกมาตรการกระตุ้นในระยะสั้น และปัจจุบันยังมีปัญหาการเมืองที่ยังไม่นิ่ง มาเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นด้วย" นายพิพัฒน์ กล่าว
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/G9YctXlQNiY
แท็กที่เกี่ยวข้อง โรงงานปิด ,บริษัทใหญ่ปิดตัว