อคส.เตรียมเปิดประมูลข้าวล็อตสุดท้าย 1.5 หมื่นตันภายในกลางเดือนนี้

นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. เปิดเผยขั้นตอน การประมูลข้าวล็อตสุดท้าย 1.5 หมื่นตัน หลังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปตรวจสอบและหุงชิม โดยหลังจากนี้ อคศ. จะออกประกาศระบายข้าวเป็นการทั่วไป หรือ เปิดประมูลภายในกลางเดือนนี้ โดยจะเปิดคลังให้ผู้สนใจเข้าไปดู ไปตรวจสอบคุณภาพข้าว ก่อนเปิดให้ยื่นซองประมูล ซึ่งตลอดกระบวนการประมูลจนถึงวันทำสัญญาซื้อขาย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน



ซึ่งการเดินทางไปตรวจสอบของนายภูมิธรรม เป็นการแสดงความมั่นใจให้ผู้ที่จะเข้าประมูล ได้เห็นว่า ข้าวมีอยู่จริง ตามปริมาณและประเภทข้าวที่ได้แจ้งไว้ ที่สำคัญชี้ให้เห็นว่าไม่มีการสอดไส้ โดยได้มีการเจาะลึกลงไปถึง 15 ชั้น (กระสอบ) จึงมั่นใจได้ว่า ทั้งโกดังเป็นข่าวชนิดเดียวกัน เป็นข่าวหอมมะลิ 100% ที่ยังมีสภาพเป็นข้าวที่ดี พร้อมขาย



โดยข้าวล็อตนี้ รับจำนำไว้ในฤดูการผลิตปี 2556/57 วันนี้ครบ 10 ปีพอดี และเคยเปิดประมูลไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 63 แต่ผู้ประมูลได้ทิ้งสัญญาไป เนื่องจากช่วงนั้นราคาข้าวตกต่ำกว่าราคาประมูล ผู้ประมูลจึงจำเป็นต้องทิ้งสัญญา เพราะขาดทุน ประกอบกับเป็นช่วงโควิดระบาย การขนส่งหยุดชะงัก ทำให้ส่งออกไม่ได้



ทำให้ข้าวล็อตนี้ ค้างอยู่ในโกดัง โดย อคส. มีค่าเก็บรักษา 380,000 บาท/เดือน หรือ ราว 5 ล้านต่อปี



ทั้งนี้ โครงการรับจำนำข้าว ได้ระบายข้าวไปแล้ว 13 ล้านกว่าตัน คงเหลือล็อตสุดท้าย 1.5 หมื่นตัน ซึ่งคาดจะได้เงินเข้ารัฐราว 270 ล้านบาท ในราคาจำหน่ายกิโลกรัมละ 18 บาท



ส่วนข้อกังวลว่า กลัวจะเวียนนำมาขายในประเทศ รักษาการณ์ ผอ. อคส. ระบุว่า ผู้ซื้อน่าจะนำออกไปขายต่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง ที่มีความต้องการข้าวเก่า เพราะคนไทยจะไม่นิยมทานข้าวเก่า อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีขั้นตอนในการตรวจสอบ แต่การประมูลครั้งนี้ ก็เป็นการประมูลทั่วไป ไม่ได้ระบุว่าเป็นการประมูลเพื่อส่งออก



อย่างไรก็ดี แม้รองนายกฯ จะไปชิมโชว์ แต่ถ้าผู้เข้าร่วมประมูล ไม่เชื่อมั่น ก็อาจจะไม่มีผู้ยื่นประมูลก็ได้ และการประมูลครั้งนี้ จะไม่เกี่ยวกับคดีความต่างๆ ที่จะยังดำเนินการอยู่