เศรษฐกิจ

ราคาทองตลาดโลก ปิดบวก 24.30 ดอลล์ ขณะที่น้ำมันโลกปิดลบ 1.19 ดอลล์

โดย gamonthip_s

12 เม.ย. 2567

231 views

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดบวก ในวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งสนับสนุนความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ขณะที่ความวิตกด้านภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่องยังคงเป็นแรงหนุนสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย



สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 24.30 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 2,372.70 ดอลลาร์/ออนซ์


สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 0.3%



บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์หลังการเปิดเผยดัชนี PPI ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเร็วที่สุดในการประชุมช่วงปลายเดือนก.ค.



จิโอวานนี่ สตาอูโนโว นักวิเคราะห์ของยูบีเอสกล่าวว่า "การที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้นั้น เรายังคงจำเป็นต้องเห็นดีมานด์จากกองทุน ETF ทองคำ และจำเป็นที่เฟดจะต้องส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง"



ราคาน้ำมันในประเทศ ตั้งแต่วันนี้ 12-16 เมษายน ปตท. และบางจาก ประกาศตรึงราคาน้ำมันทุกชนิด ไม่ปรับราคาขึ้นตลอด 5 วัน แม้ราคาตลาดโลกจะขึ้น แต่ถ้าน้ำมันโลกลดราคา ก็จะปรับราคาลงด้วย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์



ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลบ 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.38% ปิดที่ 85.02 ดอลลาร์/บาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลดลง 74 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 89.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ในวันพฤหัสบดี (11 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน หลังเงินเฟ้อที่ระดับสูงของสหรัฐทำลายความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระยะใกล้นี้ แต่ความวิตกที่ว่าอิหร่านอาจโจมตีผลประโยชน์ต่าง ๆ ของอิสราเอลนั้นยังคงช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบไว้ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน



วิกัส ทวิเวดี นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากแมคควารี เปิดเผยว่า เป็นการยากที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หากไม่มีภาวะชะงักงันด้านอุปทานเกิดขึ้นจริงจากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์



รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดกังวลว่าความคืบหน้าในการปรับลดเงินเฟ้ออาจหยุดชะงัก และจำเป็นที่เฟดจะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปในระยะเวลานานขึ้น



บรรดานักลงทุนคาดการณ์ในขณะนี้ว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อจากราคาผู้บริโภคที่สูงเกินคาด



ความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน แม้โอเปกยังคงคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกที่แข็งแกร่งในปีนี้ก็ตาม

คุณอาจสนใจ

Related News