ทุเรียนไทยเจอศึกหนัก! เวียดนามแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจีน

สำนักข่าวเวียดนาม (VNA) รายงาน โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมคุ้มครองพันธุ์พืชกระทรวงเกษตร และการพัฒนาชนบทของเวียดนาม ระบุว่า ทุเรียนเวียดนาม คว้าส่วนแบ่ง 31.8% ในตลาดจีน โดยเป็นรองแค่ทุเรียนไทย ที่ครองส่วนแบ่ง 68% โดยกรมคุ้มครองพันธุ์พืชของเวียดนาม ระบุว่า หากเวียดนามดำเนินการผลิตอย่างมืออาชีพ รวมทั้งปรับปรุงเทคนิคและคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ก็อาจแซงหน้าไทย และครองตลาดทุเรียนจีนได้



ขณะที่สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เวียดนามมีพื้นที่ปลูกทุเรียนรวมทั้งสิ้น 112,000 เฮกตาร์ และมีผลผลิต 863,000 ตันต่อปี ส่งออกไปยังจีนเป็นหลัก โดยมีปริมาณ 595,000 ตัน ในปี 2566 คิดเป็น 98.6% ของยอดส่งออกทุเรียนเวียดนามทั้งหมด



ขณะที่ทุเรียนไทย ยังเป็นที่ต้องการของตลาดจีน โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา บริษัท Shanghai East Best ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายทุเรียนจากกลุ่มเกษตรกรจังหวัดจันทบุรีแล้ว ถึง 3,000 ตู้ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่ง 400 ตู้แรก จะส่งไปถึงประเทศจีน ภายในเดือนเมษายนนี้ โดยการซื้อทุเรียนในครั้งนี้ จะนำระบบการตรวจสอบข้อมูลของทุเรียนรายลูก ด้วยรหัสล่องหน (invisible QR) มาใช้ เพื่อตรวจสอบแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคชาวจีนที่ซื้อผลไม้ไทย มั่นใจว่าทุเรียนที่ส่งไปขาย มาจากประเทศไทยจริง ป้องกันการสวมสิทธิ์ แอบอ้างสินค้าเกษตร ที่ไม่มีคุณภาพจากประเทศอื่น

ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจวัดเปอร์เซ็นต์แป้งในทุเรียน ตามล้งรับซื้อทุเรียนต่าง ๆ ของเกษตร จังหวัดตราด ก่อนออกใบรับรองผ่านการตรวจวัดเปอร์เซ็นแป้ง ถึงจะสามารถส่งออกได้ ซึ่งช่วงนี้เจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และเกษตรตำบล ต้องทำงานกันอย่างหนัก ไม่มีวันหยุด ออกบริการตรวจวัดแป้งในทุเรียนให้ชาวสวน ซึ่งผลผลิตทุเรียนกำลังเริ่มออกสู่ตลาด ป้องกันการลักลอบตัดทุเรียนอ่อนออกขาย โดยในช่วงราคาทุเรียน เรียกว่าแพงพอกับราคาทองกันเลยทีเดียว ราคารับซื้อจากสวน อย่างพันธุ์หมอนทอง ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 230-250 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จะช่วงในระดับ 200 บาทต้น ๆ

ขณะที่ช่วงเทศกาลเช็งเม้งที่พึ่งผ่านมา ตลาดจีนมีความต้องการสูงมาก ประกอบกับปริมาณทุเรียนยังออกน้อย เพราะยังเป็นช่วงต้นฤดู และล้งแย่งกันซื้อ ส่งผลให้ราคาทุเรียนปรับตัวสูงขึ้น หมอนทอง เกรด AB ราคาพุ่งไปถึง 270-300 บาทเลยทีเดียว